ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู 1 บ้านวังหมื่น สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู
ผู้วิจัย นพพล จันทะพงษ์
ปีการศึกษา 2566
วันที่เผยแพร่ 6 พฤษภาคม 2568
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู 1 บ้านวังหมื่น สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู
ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบท
ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบของโครงการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู 1 บ้านวังหมื่น สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู
โดยกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการประเมินโครงการ
ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน
และนักเรียน รวมจำนวน 296 คน ได้มาโดยการคัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ
คือ แบบประเมิน มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ
คือ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมิน
ผลการประเมินโครงการ สรุปได้ดังนี้
ผลการประเมินโครงการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู 1 บ้านวังหมื่น สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู
โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยด้านที่มีผลการประเมินสูงสุด ได้แก่ ด้านผลผลิต รองลงมา คือ ด้านบริบท
ด้านผลกระทบ ด้านกระบวนการ และด้านปัจจัยนำเข้า ตามลำดับ
ด้านบริบทของโครงการ
โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ โดยโครงการมีการกำหนดวิธีดำเนินงานและการวัดประเมินผลที่ชัดเจน
โครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่
21
และโครงการมีเป้าหมายเพื่อสร้างความพร้อมด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกให้แก่ครูเพื่อนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
มีความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุด
ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ
โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ โดยคณะกรรมการดำเนินงานของโครงการมีจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการดำเนินโครงการ
มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
ด้านกระบวนการของโครงการ
โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ โดยดำเนินกิจกรรมการนำการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสู่การปฏิบัติจริงในโรงเรียน
มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ กิจกรรมเสวนาด้านเทคนิคการสอนการเรียนรู้เชิงรุกกับครูต้นแบบ
กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแก่คณะครู
กิจกรรมการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแก่คณะครู
กิจกรรมการสังเกตการณ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ
และกิจกรรมการจัดนิทรรศการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เชิงรุก มีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด
ตามลำดับ
ด้านผลผลิตของโครงการ
โดยรวมผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ ดังนี้ (1) ครูมีความรู้ความเข้าใจด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่มุ่งให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ได้และมีความเข้าใจในตนเอง
การจัดการเรียนรู้เชิงรุกเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่มุ่งให้ผู้เรียนมีทักษะวิชาการ
ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ และการจัดการเรียนรู้เชิงรุกทำให้ครูมีทักษะและประสบการณ์ในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
อยู่ในระดับมากที่สุด (2) ครูมีทักษะและกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกอยู่ในระดับมาก
โดยมีทักษะและประสบการณ์เกี่ยวกับครูใช้กระบวนการวิจัยเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุกและแก้ปัญหาผู้เรียน
ครูส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับผู้เรียนและผู้เรียนกับผู้เรียน
ครูจัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และครูตั้งใจสอน
ให้คำแนะนำนักเรียนในการทำกิจกรรม และดูแลนักเรียนอย่างทั่วถึง ทันเหตุการณ์ มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด
และ (3) ครูมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการจัดการเรียนรู้เชิงรุกปีการศึกษา 2566 ทั้งหมดจำนวน 124 เรื่อง
ด้านผลกระทบของโครงการ
โดยรวมผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ โดยพบว่า
ครูทำการวิจัยในชั้นเรียนในการจัดการเรียนการสอนที่ใช้แผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกและสื่อการสอน
มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด นักเรียนมีทักษะใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้
ออกแบบ สร้างสรรค์ผลงาน เผยแพร่และนำเสนอสู่สาธารณชนในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค
และระดับชาติ มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด และด้านความพึงพอใจต่อโครงการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู 1 บ้านวังหมื่น สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู
โดยรวมมีความพึงพอใจมากที่สุด
ข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการประเมินไปใช้ มีดังนี้
1. ควรมีหลักการและเหตุผลในการสนับสนุนการพัฒนาสมรรถนะทางวิชาชีพครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกได้อย่างเหมาะสมและชัดเจน
2. ควรจัดสรรงบประมาณในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการให้เพียงพอและเหมาะสม
3. ควรมีการดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน
เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน สอดคล้องกับสภาพปัญหาและเป้าหมายของโครงการ
ก่อนริเริ่มโครงการ
4. ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก
ควรส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักการแบ่งหน้าที่ มีความรับผิดชอบ
และมีวินัยในการทำงานร่วมกัน
5. ควรส่งเสริมให้ครูมีประสบการณ์ในการนำการจัดการเรียนรู้เชิงรุกไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้มากขึ้น
6. ควรจัดการเรียนรู้เชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งเสริมนักเรียนให้เข้าร่วมการแข่งขันทักษะทางวิชาการในระดับจังหวัด ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และระดับชาติ ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลงานของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง
7. ควรส่งเสริมให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการจัดการเรียนรู้เชิงรุกไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือใช้ในสถานการณ์ใหม่ในสภาพแวดล้อมใกล้ตัว
ปัญหาชุมชม และสังคม
8. ครูควรเผยแพร่ผลงานวิชาการและการจัดนิทรรศการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกแก่ชุมชน
หน่วยงาน และบุคคลที่สนใจมากขึ้น