ชื่อเรื่อง รูปแบบการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล ๗ (วัดแก่งขนุน) สังกัดเทศบาลเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี
ผู้วิจัย นางสาวชนม์ณกานต์ แก้วสุริยาภรณ์
ปีการศึกษา 2567
วันที่เผยแพร่ 5 สิงหาคม 2568
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก
เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
โรงเรียนเทศบาล ๗ (วัดแก่งขนุน) โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะดังนี้
1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
โรงเรียนเทศบาล ๗ (วัดแก่งขนุน) 2)
เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
โรงเรียนเทศบาล ๗ (วัดแก่งขนุน) 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
โรงเรียนเทศบาล ๗ (วัดแก่งขนุน)
4)
เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล ๗ (วัดแก่งขนุน)
โดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) แบ่งการดำเนินการออกเป็น 4 ขั้นตอน
ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น โดยศึกษาข้อมูลพื้นฐาน
วิเคราะห์ และสังเคราะห์เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาสภาพปัญหา
ความต้องการ พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา ขั้นตอนที่
2 การออกแบบและจัดทำรูปแบบเบื้องต้น โดยวิเคราะห์เนื้อหาจากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ได้ข้อสรุปร่วมเพื่อนำมาออกแบบโครงสร้างและองค์ประกอบ พร้อมจัดประชุมประชาพิจารณ์เพื่อตรวจสอบความเหมาะสม ความเป็นไปได้
และความตรงของรูปแบบเบื้องต้น ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ โดยนำองค์ประกอบไปใช้ผ่านโครงการในสถานศึกษา
จำนวน 20 โครงการ และขั้นตอนที่ 4 การประเมินและปรับปรุงรูปแบบ
โดยใช้ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาเป็นข้อมูลหลัก เพื่อประเมินคุณภาพของรูปแบบ 3
ด้าน ได้แก่ ความเหมาะสม ความเป็นไปได้
และประสิทธิผลเบื้องต้นของรูปแบบ กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียน
และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในโรงเรียนเทศบาล ๗ (วัดแก่งขนุน) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม แบบประเมิน และแบบสังเกตพฤติกรรม
ข้อมูลเชิงคุณภาพวิเคราะห์โดยการสังเคราะห์เนื้อหา
ข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์โดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย
ผลการวิจัยพบว่า
รูปแบบที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 7 ด้าน ได้แก่ 1)
ด้านนโยบายและวิสัยทัศน์ 2) ด้านภาวะผู้นำดิจิทัล 3) ด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
4) ด้านการพัฒนาครู 5) ด้านการจัดการเรียนรู้ 6) ด้านการวัดและประเมินผล
และ 7) ด้านการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยมีโครงการนำร่องในแต่ละองค์ประกอบที่ดำเนินการจริง
ผลการทดลองใช้แสดงให้เห็นว่ารูปแบบที่พัฒนาขึ้นสามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนได้ ส่งผลให้คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนเพิ่มขึ้น
และมีระดับความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ระดับมากที่สุด
ระดับความเป็นไปได้ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และระดับประสิทธิผลเบื้องต้นในภาพรวม อยู่ระดับมากที่สุดตามการประเมินของผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง