ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาโดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย
ผู้วิจัย นายเกษม อาจย์เวท
ปีการศึกษา 2567
วันที่เผยแพร่ 6 สิงหาคม 2568
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาโดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย
ผู้วิจัย นายเกษม อาจย์เวท
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) ศึกษาองค์ประกอบของรูปแบบการจัดการศึกษา
โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย 2)
เพื่อพัฒนารูปแบบการการจัดการศึกษาโดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย
3)
เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย
4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย
กลุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษารายกรณี
ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้รับผิดชอบโครงการ/กิจกรรม
จำนวน 19 คน กลุ่มที่ 2
คือผู้บริหารและบุคลากรที่รับผิดชอบการดำเนินงาน/โครงการในโรงเรียนทดลองใช้ตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ทำการเรียนการสอนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
จำนวน 12 คน และกลุ่มที่ 3 คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้รับผิดชอบโครงการ/กิจกรรม
จำนวน 19 คน นักเรียน จำนวน 137 คน และผู้ปกครองนักเรียน
จำนวน 137 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วยองค์ประกอบของรูปแบบหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แบบสอบถามเพื่อประเมินรูปแบบ
แบบสอบถามความคิดเห็นแบบประเมินความพึงพอใจและแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ลำดับขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาแบ่งออกเป็น 4
ระยะ คือ 1) การศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานร่างรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย
คือ PAFERE Model ซึ่งมี 6
ขั้นตอน คือ ขั้นเตรียมการ (preparation) ขั้นดำเนินการ
(Administer) ขั้นติดตามแนะนำ
(Follow – Up recommendation) ขั้นประเมินผล (Evaluation Process) ขั้นรายงานผล (Report results) และขั้นขยายผล (Extension) ระยะที่ 2
การออกแบบและพัฒนา (ร่าง) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย
ระยะที่ 3 การนำรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อยไปใช้
ระยะที่ 4 การประเมินการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย
จะจัดได้ดีเมื่อมีองค์ประกอบ 2 ส่วน คือ
ส่วนแรก ได้แก่ องค์ประกอบของรูปแบบที่นำมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ประกอบด้วย หลักการ จุดมุ่งหมาย การจัดองค์การ การดำเนินการ ตัวชี้วัดความสำเร็จ การนำรูปแบบใช้ และเงื่อนไขความสำเร็จ และ ส่วนที่ 2 ได้แก่
องค์ประกอบด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ประกอบด้วย การบริหารและจัดการ การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การจัดกระบวนการเรียนการสอนตามหลักสูตรสถานศึกษา
การจัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการจัดการเรียนรู้ การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การนิเทศติดตาม
ประเมินผลและรายงานผล การประชาสัมพันธ์และการสร้างเครือข่าย และคุณภาพนักเรียนตามลักษณะความมีชีวิตพอเพียง
2. รูปแบบที่จะนำไปสู่ประสิทธิผลในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีลักษณะ
ดังนี้ 1) หลักการจัด ต้องยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มียุทธศาสตร์อยู่บนพื้นฐานการรู้จักตนเอง
การช่วยเหลือตนเอง
การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
และการสร้างเครือข่าย
หลักความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการ มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ภายใต้เงื่อนไขการมีความรู้และคุณธรรม สอดคล้องกับภูมิสังคม และโรงเรียนต้องเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) 2)
จุดมุ่งหมาย เพื่อให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีมาตรฐานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ส่งผลสู่การดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของผู้เรียน ผู้บริหารโรงเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน 3)
การจัดองค์การ ยึดหลักการมีส่วนร่วมและเน้นการทำงานเป็นทีม และ 4)
การดำเนินการมีขั้นตอนการดำเนินการในการนำรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนเทศบาลตำบลแวงน้อย มีความเหมาะสมสำหรับนำไปใช้จัดการศึกษาในโรงเรียน
เพราะมีองค์ประกอบและการดำเนินการที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน ส่งผลให้นักเรียนมีคุณลักษณะ ความมีชีวิตพอเพียงอย่างยั่งยืน คือ มีความพอประมาณ
มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ภายใต้เงื่อนไขการมีความรู้ คู่คุณธรรม