ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยการพัฒนาบทเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู ที่พัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียน
ผู้วิจัย นายภาณุพันธุ์ พันธุรัตน์
ปีการศึกษา 2567
วันที่เผยแพร่ 21 สิงหาคม 2568
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยการพัฒนาบทเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถนะ การจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู ที่พัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียน
ผู้วิจัย
นายภาณุพันธุ์ พันธุรัตน์
ปีที่วิจัย
ปีการศึกษา 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทาง วิชาชีพ โดยการพัฒนาบทเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูที่พัฒนาความสามารถ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียน 2) พัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู์ทางวิชาชีพ โดยการพัฒนา บทเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูที่พัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียน 3) ศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โดยการพัฒนาบทเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูที่พัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์ นวัตกรรมของนักเรียน 4) เพื่อประเมินรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โดยการพัฒนาบทเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูที่พัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของ นักเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 16 คน ศึกษานิเทศก์ จำนวน 3 คน ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 4 คน นักเรียน จำนวน 183 คน ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. สภาพปัจจุบันและสภาพที่คาดหวังเกี่ยวกับและระดับความคาดหวังในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ที่พัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม พบว่า โดยภาพรวม ครูมีความต้องการพัฒนาสมรรถนะ ในระดับค่อนข้างสูง ทั้งในด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้ ตลอดจนการวัดและ ประเมินผลที่สอดคล้องกับแนวทาง Active Learning เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีความต้องการจำเป็นมากที่สุด คือ การวัดและประเมินผล รองลงมา คือ ด้านสื่อและแหล่งเรียนรู้ และด้านการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ ตามลำดับ
2. รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1)
หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการ 4 ขั้นตอน คือ 3.1) กำหนดวิสัยทัศน์ 3.2)
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3.3) ศึกษา ชั้นเรียน 5 ขั้นตอน คือ 3.3.1)
วิเคราะห์และเตรียมการ 3.3.2) ออกแบบการสอน 3.3.3) การนำไปใช้และ การสังเกตการสอน
3.3.4) สะท้อนคิด 3.3.5) ปรับปรุงพัฒนา และ 3.4) สรุปกิจกรรม 4) การประเมินผล 5)
เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบไปใช้ และ 6) ปัจจัยสนับสนุน
ซึ่งผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพพบว่า
ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ประสิทธิผลของรูปแบบ ด้านผู้สอนพบว่า 1)
ความรู้ความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูสูงขึ้น 2)
สมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ได้แก่
2.1) ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ สูงขึ้น 2.2)
พัฒนาการความสามารถในการออกแบบการเรียนรู้สูงขึ้น 2.3)
พัฒนาการความสามารถในการจัดการเรียนรู้สูงขึ้น และ 3)
ความคิดเห็นของสมาชิกที่มีต่อรูปแบบพบว่า เป็นรูปแบบที่ดีและมีประโยชน์
ต่อการพัฒนาวิชาชีพ ด้านนักเรียน พบว่า ความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียนอยู่ใน
ระดับมากที่สุด
4. ผลการประเมินรูปแบบด้วยการสัมมนาอ้างอิงกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ พบว่า
รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด