ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลาง สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ผู้วิจัย นายโกสินทร์ สวัสดิ์ชัย
ปีการศึกษา 2568
วันที่เผยแพร่ 10 กันยายน 2568
บทคัดย่อ
รูปแบบการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
มีวัตถุประสงค์ คือ 1)
เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการในการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ
ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน 2)
เพื่อสร้างรูปแบบการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
3) เพื่อทดลองใช้
และประเมินผลรูปแบบการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ
ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน 4)
เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการนำรูปแบบการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัว
เป็นศูนย์กลาง สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ
ที่พัฒนาขึ้นโดยศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ไปประยุกต์ใช้ในศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดอื่น แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่
1 การศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการในการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม
สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ในปีการศึกษา 2567 กลุ่มตัวอย่างคือครู คณะกรรมการสถานศึกษา
ผู้บริหารสถานศึกษา
10 คน และผู้ปกครองจำนวน 10 คน เครื่องมือ คือแบบประเด็นการสนทนากลุ่ม เก็บรวบรวมข้อมูล โดยการสนทนากลุ่ม
วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ระยะที่ 2 การสร้างรูปแบบการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
2567 ผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ 11 คน โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก และความเหมาะสมและความเป็นไปได้ จากกลุ่มตัวอย่างคือ ครู 25 คน คณะกรรมการสถานศึกษา 4 คน และผู้บริหาร 1 คน
เครื่องมือ คือ แบบวิเคราะห์เอกสารประเด็น
ในการสัมภาษณ์เชิงลึก และแบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้
เก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิเคราะห์เอกสารการสัมภาษณ์เชิงลึก และประเมินฯ
วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา และใช้สถิติพื้นฐาน คือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานระยะที่
3 การทดลองใช้รูปแบบการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษศูนย์การศึกษาพิเศษ
ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปีการศึกษา
2567 กลุ่มตัวอย่างคือครู 15 คน เครื่องมือ คือ
แบบประเมินประสิทธิผลในการนำรูปแบบฯไปใช้ และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มี ต่อรูปแบบฯ
เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการทดลองใช้ ประเมินประสิทธิผล และสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน
คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 4 การศึกษาความเป็นไปได้ในการนำรูปแบบการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ
ที่พัฒนาขึ้นโดยศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ไปประยุกต์ใช้ในศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดอื่น ในปีการศึกษา 2568 กลุ่มตัวอย่าง คือผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ จำนวน 7 คน รองผู้อำนวยการหรือครูปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการกลุ่มงานวิชาการจำนวน
7 คน ครู
ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ จำนวน
7 คน เครื่องมือ คือ
แบบสอบถามความเป็นไปได้ในการนำรูปแบบฯและคู่มือการใช้รูปแบบฯ ไปใช้ในสถานศึกษาอื่น
วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติพื้นฐาน คือ ความถี่ ร้อยละ
ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย มีดังนี้
1. สภาพปัจจุบันในการให้บริการช่วยเหลือ
ระยะแรกเริ่มของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
พบว่ามีจุดแข็งในด้านบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบ
งบประมาณพื้นฐานที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง
และการจัดสื่อการเรียนรู้บางส่วนที่เหมาะสมต่อผู้เรียน อย่างไรก็ตาม
ยังมีข้อจำกัดที่สำคัญ ได้แก่ การขาดบุคลากรเฉพาะทาง เช่น นักกิจกรรมบำบัด และนักอรรถบำบัด
การขาดงบประมาณเฉพาะด้าน การขาดวัสดุอุปกรณ์และนวัตกรรมที่จำเป็น
ตลอดจนการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและภาคีเครือข่ายที่ยังไม่เป็นระบบและต่อเนื่องเพียงพอ
ส่วนความต้องการ ในการให้บริการช่วยเหลือ ระยะแรกเริ่มของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอนพบว่า ด้านบุคลากร
ต้องการการพัฒนาศักยภาพและการเพิ่มบุคลากรสหวิชาชีพ ด้านงบประมาณ
ต้องการการจัดสรรทรัพยากรที่ครอบคลุมทั้งพื้นฐานและเฉพาะทาง ด้านวัสดุอุปกรณ์และสื่อ
ต้องการการพัฒนาและการจัดหาสื่อ นวัตกรรม และอุปกรณ์เฉพาะบุคคลที่ทันสมัย และด้านการบริหารจัดการ
ต้องการระบบการบริหารที่เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและภาคีเครือข่าย เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม
2.
รูปแบบการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษศูนย์การศึกษาพิเศษ
ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่สร้างขึ้ มีทั้งหมด 6 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 หลักการของรูปแบบ องค์ประกอบที่
2 วัตถุประสงค์ ของรูปแบบ องค์ประกอบที่
3 ปัจจัยนำเข้า (Input) องค์ประกอบที่ 4 กระบวนการ (Process) องค์ประกอบที่ 5 ผลผลิต (Output) และ องค์ประกอบที่ 6 ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) โดยรูปแบบมีความเหมาะสม
อยู่ในระดับมากที่สุด
มากที่สุด (x̅
= 4.67, S.D. = 0.47) และความเป็นไปได้ของร่างรูปแบบอยู่ในระดับ มากที่สุด
(x̅ = 4.68, S.D. = 0.46)
3.
ผลการทดลองใช้และประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบฯ พบว่า ตามความคิดเห็นของครู
อยู่ในระดับ มากที่สุด
คิดเป็นร้อยละเฉลี่ย 95.00 พบว่า ในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในการนำรูปแบบไปใช้
เด็กมีผลการพัฒนาการที่ดีตามจุดประสงค์ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล(IEP) และแผนการให้บริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัว(IFSP)
เฉลี่ยร้อยละ 93.00
อยู่ในระดับมากที่สุด และมีค่าพัฒนาการทั้ง 5 ด้าน
(ร่างกาย อารมณ์–จิตใจ สังคม สติปัญญา และทักษะเฉพาะ)
เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 91.80
ของปีการศึกษา 2566 เป็น 93.00 ของปีการศึกษา
2567 ขณะเดียวกันคุณลักษณะอันพึงประสงค์ อยู่ในระดับมากที่สุด
โดยเพิ่มจากร้อยละ 89.78
ของปีการศึกษา 2566 เป็น
95.04 ของปีการศึกษา 2567 ด้านความพึงพอใจ ที่มีต่อรูปแบบฯ
ครูมีความพึงพอใจ ต่อรูปแบบฯ ระดับมากที่สุด (x̅
= 4.79, S.D. = 0.34) และผู้ปกครอง
มีความพึงพอใจต่อรูปแบบฯ ระดับมากที่สุดเช่นกัน
(x̅ = 4.78, S.D. = 0.36)
4. ผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำรูปแบบการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ที่พัฒนาขึ้นโดยศูนย์การศึกษาพิเศษ
ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปประยุกต์ใช้ในศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดอื่น พบว่า อยู่ในระดับ
มากที่สุด (x̅
= 4.70, S.D. = 0.46) และความเป็นไปได้ในการนำคู่มือการใช้รูปแบบการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลางไปใช้ในสถานศึกษาอื่น
อยู่ในระดับ มากที่สุด (x̅=
4.71, S.D. = 0.44)