ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารเชิงบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตแลอาชีพ โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐานของครูโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล
ผู้วิจัย นางกมลาศน์ ศรประสิทธิ์
ปีการศึกษา 2568
วันที่เผยแพร่ 18 กันยายน 2568
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารเชิงบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตแลอาชีพ
โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐานของครูโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล
ผู้วิจัย นางกมลาศน์ ศรประสิทธิ์
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา
วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
สถานที่ทำงาน โรงเรียนสะเดา
“ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษาสงขลา สตูล
สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ปีที่พิมพ์ 2566
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบและสภาพปัจจุบัน
สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของการพัฒนารูปแบบการบริหารเชิงบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตและอาชีพ
โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐานของครูโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์”
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล 2)
เพื่อสร้างและตรวจสอบร่างรูปแบบ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบ และ 4) เพื่อปรับปรุงและประเมินรูปแบบ โดยแบ่งการวิจัยออกเป็น 4 ระยะ
ตามกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development)
ระยะที่ 1 (R1) ศึกษาองค์ประกอบและสภาพปัจจุบัน
สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของรูปแบบ ระยะที่ 2 (D1) สร้างและตรวจสอบร่างรูปแบบ ระยะที่ 3 ระยะที่ 3 (R2) ทดลองใช้รูปแบบ และระยะที่
4 (D2)
ปรับปรุงและประเมินรูปแบบ กลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้บริหาร ครู
ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา และนักเรียนโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์”
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ปีการศึกษา 2566 เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล
ได้แก่ แบบสอบถาม แบบประเมิน แบบบันทึกการสนทนากลุ่มและแบบทดสอบ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
เทคนิค Modified
Priority Needs Index (PNImodified) และ t – test (Dependent – t – test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. องค์ประกอบของการบริหารเชิงบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตและอาชีพ
โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐานของครูโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” มี 4 องค์ประกอบ คือ การกำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายที่ชัดเจน
การมีส่วนร่วมของชุมชนและเครือข่าย
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายมุ่งพัฒนาทักษะชีวิตและอาชีพ
และการประเมินและติดตามผลการเรียนรู้ ส่วนองค์ประกอบของการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐานของครูโรงเรียนสะเดา
“ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” มี 6
ขั้นตอน คือ
การวางแผนการเรียนรู้โครงงาน การรวบรวมข้อมูล ลงมือปฏิบัติ
การสะท้อนผลและการปรับปรุง การนำเสนอผลงาน และ การประเมินผลการเรียนรู้ ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน
สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นการพัฒนารูปแบบพบว่า สภาพปัจจุบันโดยรวม
อยู่ในระดับปานกลาง และสภาพที่พึงประสงค์ของการพัฒนารูปแบบโดยรวมทั้งฉบับ
อยู่ในระดับมากที่สุด
2. การสร้างและตรวจสอบร่างรูปแบบการบริหารเชิงบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้าน
ทักษะชีวิตและอาชีพ
โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐานของครูโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา
สตูล ปรากฏผล ดังนี้ 1) ผลการประชุมสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ (Connoisseurship) เพื่อพิจารณาองค์ประกอบของรูปแบบ
โดยผู้เชี่ยวชาญเห็นควรให้ปรับแก้กระบวนการเดิมของรูปแบบในร่างรูปแบบฉบับที่
1 เป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมความพร้อม ขั้นตอนที่ 2 การฝึกอบรม
ขั้นนตอนที่ 3 การบูรณาการ (การปฏิบัติจริงที่หน้างาน) และขั้นตอนที่ 4
การประเมินหลังการพัฒนา 2) จากผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของร่างรูปแบบและร่างคู่มือแนวปฏิบัติการใช้รูปแบบการบริหารเชิงบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตและอาชีพ
โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐานของครูโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์”
โดยผู้เชี่ยวชาญ มีความคิดเห็นว่าความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้ โดยรวมอยู่ในระดับ
มากที่สุด
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารเชิงบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิต
และอาชีพ โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐานของครูโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา
สตูล พบว่า 1) คะแนนประเมินความรู้ก่อนการพัฒนาเฉลี่ยรวม
คิดเป็นร้อยละ 48.85
และมีคะแนนประเมินความรู้หลังการพัฒนาคิดเป็นร้อยละ 91.73
เมื่อทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยของคะแนน พบว่า
คะแนนประเมินความรู้หลังการพัฒนาสูงกว่าคะแนนประเมินความรู้ก่อนการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05 2) ผลการประเมินความสามารถในการออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐาน
เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตและอาชีพ ของครูโรงเรียนสะเดา“ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” หลังการพัฒนา
มีผลการประเมินดังนี้ (1)
ผลการประเมินความสามารถในการออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐาน
พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับ ดีเยี่ยม (2) ผลจากการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตและอาชีพ
หลังการพัฒนา พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับ ดีเยี่ยม (3) ผลการประเมินสมรรถนะนักเรียนในการจัดการเรียนรู้ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู
พบว่า อยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 85.42 (4) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู
พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับ 3 ขึ้นไป หลังจากการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู
โดยใช้โครงงานเป็นฐานอยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 78.80 (5) ผลการประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐาน
หลังการพัฒนา โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด (6) ผลการประเมินสมรรถนะผู้เรียน
ด้านทักษะชีวิตและอาชีพที่ได้จากหลังการนิเทศ
ของครู พบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐาน
มีผลการประเมินสมรรถนะผู้เรียน ด้านทักษะชีวิตและอาชีพ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
และ (7) ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน
ด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ด้านความมุ่งมั่นในการทำงาน
ของนักเรียนที่เกิดขึ้นหลังจากการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้โครงงานเป็นฐาน พบว่า
โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
4. ผลการปรับปรุงและประเมินรูปแบบการบริหารเชิงบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้าน
ทักษะชีวิตและอาชีพ
โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐานของครูโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล ปรากฏผล ดังนี้ 1) ผลการประเมินความเหมาะสมและความมีประสิทธิผลของรูปแบบ
โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) ผลการประเมินความเหมาะสมและความมีประสิทธิผลของคู่มือแนวปฏิบัติการใช้รูปแบบ
โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 3) ผลการประเมินผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐาน
โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 4) ผลการประเมินความพึงพอใจในการพัฒนารูปแบบ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
และ 5) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐานของครู
โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
คำสำคัญ : การพัฒนารูปแบบ, การบริหารเชิงบูรณาการ, โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบโครงงานเป็นฐานของครู,
คุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตและอาชีพ