ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยค จากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง
ผู้วิจัย นงลักษณ์ หมีคณะ
ปีการศึกษา 2566
วันที่เผยแพร่ 16 มีนาคม 2567
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง
ผู้วิจัย นงลักษณ์ หมีคณะ
ปีการศึกษา 2566
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ
1) ศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง 2)
พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน
3) ศึกษาผลของการใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน 4)
ประเมินผลรูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน
การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น
4 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นการศึกษาสภาพปัญหา
และความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระยะที่ 2 เป็นการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน
ระยะที่ 3 เป็นการศึกษาผลของการใช้รูปแบบการเรียนการสอน และระยะที่ 4 เป็นการประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการเรียนการสอนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 20 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่
2 ปี การศึกษา 2566 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย
รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน
แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ()
และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติที แบบไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา
(Content Analysis) โดยสรุปผลการวิจัย ได้ดังนี้
สรุปผลการวิจัย
1.
ผลการศึกษาสภาพปัญหา
และความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง พบว่า
ครูยังคงเน้นการบรรยายเนื้อหาเป็นหลัก ขาดการกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจในการเรียน
ไม่มีรูปแบบ เทคนิค วิธีการสอน
และกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่แปลกใหม่ กิจกรรมไม่น่าสนใจ สื่อและเทคโนโลยีการเรียนรู้ มีน้อย
ไม่เพียงพอ ไม่น่าสนใจ ครูขาดการบูรณาการเรียนรู้กับศาสตร์อื่น ๆ ที่ใกล้ตัวและจัดกิจกรรมที่ไม่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตประจำวันของนักเรียน
นักเรียนมีความหลากหลายและแตกต่างกัน แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนไม่เพียงพอ
นักเรียนไม่ตั้งใจเรียนขาดเรียนบ่อย ขาดความสามารถด้านกระบวนการเขียน ไม่กระตือรือร้น
ไม่สนใจใฝ่รู้
2.
รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง มี 5 องค์ประกอบหลัก คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4)
การวัดและประเมินผล และ 5) ปัจจัยสนับสนุนการจัดการเรียนรู้
ซึ่งมีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นผ่อนคลาย ขยายสมอง (Relax) 2) ขั้นพาตรึกตองซ้ำ เพื่อย้ำทบทวน (Repeat)
3) ขั้นเร่งชี้ชวน เติมความรู้ใหม่ (rebuild) 4) ขั้นแบ่งปันความรู้
จากเพื่อนสู่เพื่อน (Ready to share) 5) ขั้นสาระที่ได้จากกระบวนการกลุ่ม
(Reason) และ 6) ขั้นผลลัพธ์ที่ได้มุ่งสู่การประเมิน (Result)
โดยรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ
82.54/83.71 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐานหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05
4.
ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
1 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.35 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.55