ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEAM Education วิชาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ พลังงานและสิ่งแวดล้อมของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 1
ผู้วิจัย เพิ่มบุญ สาลีนาค
ปีการศึกษา 2565
วันที่เผยแพร่ 16 มิถุนายน 2567
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (
) การทดสอบค่าที
(t - test) แบบ One Sample T
Test และค่าที
(t-test) แบบ Independent Sample T
Test การทดสอบค่าความแปรปรวนทางเดียว (One Way
Analysis of Variance : F-test) และทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธี
Scheffe’ test
ผลการวิจัย สรุปได้ดังนี้
1. ผลคะแนนเฉลี่ยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
วิชาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ พลังงานและสิ่งแวดล้อม ของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
ชั้นปีที่ 1 โดยใช้วิธีสอนตามแนวทาง STEAM Education มากกว่าร้อยละ
70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
0.05
2. ผลคะแนนเฉลี่ยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ พลังงานและสิ่งแวดล้อม ของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 1 โดยใช้วิธีสอนตามแนวทาง STEAM Education ของเพศหญิงและเพศชายไม่แตกต่างกันด้วยความเชื่อมั่นร้อยละ 95
3. ผลคะแนนเฉลี่ยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ พลังงานและสิ่งแวดล้อม ของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 1 โดยใช้วิธีสอนตามแนวทาง STEAM Education ของทุกสาขาวิชาเอกไม่แตกต่างกันด้วยความเชื่อมั่นร้อยละ 95
4. นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
ชั้นปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEAM
Education โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
มีค่าเฉลี่ย (
) เท่ากับ 4.34 และ
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (
) เท่ากับ 0.345 และเมื่อพิจารณารายข้อทั้งหมดพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ วิธีการสอนแบบ STEAM Education ทำให้นักศึกษาสามารถเชื่อมโยงความคิดสร้างสรรค์ได้ ซึ่งมีค่าเฉลี่ย (
Vichakan.net - เผยแพร่ผลงานวิชาการ