ชื่อเรื่อง การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้บนดิจิทัลแพลตฟอร์มตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับการ์ตูนแอนิเมชั่น ที่ส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย ปริชมน คงช่วย
ปีการศึกษา 2566
วันที่เผยแพร่ 20 มิถุนายน 2567
บทคัดย่อ
ปริชมน คงช่วย (2566) .การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้บนดิจิทัลแพลตฟอร์มตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
ร่วมกับการ์ตูนแอนิเมชั่น ที่ส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
3. รายงานการวิจัยในชั้นเรียน
โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สังกัด เทศบาลนครนครศรีธรรมราช อำเภอเมือง
จังหวัดนครศรีธรรมราช
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้บนดิจิทัลแพลตฟอร์มตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับการ์ตูนแอนิเมชั่น
ที่ส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
3 รายวิชาวิทยาการคำนวณ หน่วยการเรียนรู้เรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้
โดยใช้กระบวนการวิจัยเป็นฐาน แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1) ระยะที่ 1
การออกแบบและพัฒนานวัตกรรม 2) ระยะที่ 2 การตรวจสอบความตรงของนวัตกรรม และ 3)
ระยะที่ 3 การใช้นวัตกรรม ซึ่งจะศึกษาทั้งการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
และความพึงพอใจของผู้เรียนที่เรียนด้วยนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้น ผ่านเครื่องมือต่างๆ
เช่น แบบวัด แบบทดสอบ แบบสัมภาษณ์ผู้ออกแบบ
และการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพผลการวิจัยพบว่า 1. ผลการออกแบบและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้บนดิจิทัลแพลตฟอร์มตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับการ์ตูนแอนิเมชัน
พบว่ามีองค์ประกอบสำคัญ 6 ด้าน คือ 1) สถานการณ์ปัญหา 2) คลังความรู้ 3)
เครื่องมือทางปัญญา 4) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 5) ฐานการช่วยเหลือ และ 6) การให้คำปรึกษา
โดยมีผลการประเมินความตรงภายในอยู่ในระดับสูงมากในทุกด้านจากผู้เชี่ยวชาญ
สะท้อนถึงคุณภาพของการออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎี 2. ผลการศึกษาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของผู้เรียนที่เรียนด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้
ปรากฏว่าคะแนนทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.01 แสดงให้เห็นว่านวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นสามารถเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
3 ได้จริง 3. ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เรียนด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้
พบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.01
สะท้อนให้เห็นว่านวัตกรรมการเรียนรู้มีประสิทธิภาพในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างได้ดี
และ 4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อนวัตกรรมการเรียนรู้
พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
มีความพึงพอใจต่อนวัตกรรมการเรียนรู้โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยด้านสื่อการเรียนรู้มีความพึงพอใจสูงสุด รองลงมาคือการสนับสนุนการเรียนรู้
เนื้อหา กิจกรรม และปฏิสัมพันธ์ ตามลำดับ
ส่วนด้านการวัดผลมีความพึงพอใจน้อยที่สุดในระดับมาก