Vichakan.net - เผยแพร่ผลงานวิชาการ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง

ผู้วิจัย นายพิชิตชัย บุปผาโท

ปีการศึกษา 2566

วันที่เผยแพร่ 25 มิถุนายน 2567

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

 

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะ ดังนี้
1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบและแนวทางการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง
2) เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง
3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง
4) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาองค์ประกอบและแนวทางการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง พบว่า ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 2) ปัจจัยการบริหาร 3) กระบวนการบริหาร 4) เป้าหมายความสำเร็จ และแนวทางการบริหารจัดการเรียนรู้ของแต่ละองค์ประกอบ

2. รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 4 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 วัตถุประสงค์ของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 2 ปัจจัยการบริหาร ประกอบด้วย 1) องค์ประกอบของคณะกรรมการบริหาร 2) บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการบริหาร 3) คุณลักษณะของผู้บริหาร 4) คุณลักษณะของครู องค์ประกอบที่ 3 กระบวนการบริหาร ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การวางแผน ขั้นตอนที่ 2 การจัดองค์กร ขั้นตอนที่ 3 การสร้างแรงจูงใจ ขั้นตอนที่ 4 การควบคุมงาน และองค์ประกอบที่ 4 เป้าหมายความสำเร็จ ประกอบด้วย 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน 2) ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่าน (RT) 3) ผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียน (NT) 4) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) 5) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน 6) ความพึงพอใจของครู

ผลการตรวจสอบรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง ผู้ทรงคุณวุฒิมีความเห็นว่า มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง พบว่า ครูสามารถปฏิบัติตามรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง อยู่ในระดับมากที่สุด

4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง พบว่า 1) ผลการเปรียบเทียบร้อยละของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดบ้านดง ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในปีการศึกษา 2566 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีผลการประเมินเพิ่มขึ้นสูงที่สุด รองลงมาได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มีผลการประเมินเพิ่มขึ้นน้อยที่สุด 2) ผลการเปรียบเทียบร้อยละของคะแนนเฉลี่ยการประเมินความสามารถด้านการอ่าน (RT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกด้านการประเมิน ในปีการศึกษา 2566 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 และเมื่อเปรียบเทียบร้อยละคะแนนเฉลี่ยของโรงเรียนกับระดับประเทศ ในปีการศึกษา 2566 พบว่า สูงกว่าระดับประเทศทุกด้านการประเมิน 3) ผลการเปรียบเทียบร้อยละของคะแนนเฉลี่ยการประเมินคุณภาพของผู้เรียน (NT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทุกด้านการประเมิน ในปีการศึกษา 2566 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 และเมื่อเปรียบเทียบร้อยละคะแนนเฉลี่ยของโรงเรียนกับระดับประเทศ ในปีการศึกษา 2566 พบว่า สูงกว่าระดับประเทศทุกด้านการประเมิน 4) ผลการเปรียบเทียบร้อยละของคะแนนเฉลี่ยการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในวิชาภาษาไทย วิชาภาษาอังกฤษ และวิชาคณิตศาสตร์ ปีการศึกษา 2566 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 และเมื่อเปรียบเทียบร้อยละคะแนนเฉลี่ยของโรงเรียนกับระดับประเทศ ในปีการศึกษา 2566 พบว่า สูงกว่าระดับประเทศทุกรายวิชา 5) ผลการเปรียบเทียบร้อยละของผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดบ้านดง ก่อนและหลังทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง ในปีการศึกษา 2566 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 ทุกข้อ โดยคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อที่ 5 อยู่อย่างพอเพียง มีผลการประเมินเพิ่มขึ้นสูงที่สุด รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 8 มีจิตสาธารณะ ข้อที่ 7 รักความเป็นไทย ข้อที่ 6 มุ่งมั่นในการทำงาน ข้อที่ 2 ซื่อสัตย์สุจริต ข้อที่ 4 ใฝ่เรียนรู้ ข้อที่ 1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และข้อที่ 3 มีวินัย มีผลการประเมินเพิ่มขึ้นน้อยที่สุด 6) ผลการประเมินความพึงพอใจของครูที่มีต่อการปฏิบัติตามรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง พบว่า ในภาพรวมครูมีความพึงพอใจต่อการปฏิบัติตามรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดง อยู่ในระดับมากที่สุด