ชื่อเรื่อง “ เสริม สร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้ คู่คุณธรรมนำความสุข ด้วยรูปแบบ B2 DONSAI MODEL”
ผู้วิจัย ปรีดาพร ปักษี
ปีการศึกษา 2567
วันที่เผยแพร่ 31 กรกฎาคม 2567
บทคัดย่อ
พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับยังได้กำหนดไว้ว่า
ให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณี
ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา
และการจัดสรรโอกาสเข้าศึกษาต่อ ระหว่างสถานศึกษาที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับโดยให้ปิดประกาศไว้
ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสถานศึกษา
รวมทั้งต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ปกครองของเด็กทราบก่อนเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
และได้กำหนดไว้ในมาตรา 12
ว่าให้กระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และสถานศึกษาจัดการศึกษาเป็นพิเศษสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ
สติปัญญา อารมณ์ สังคม การสื่อสารและการเรียนรู้หรือมีร่างกายพิการหรือทุพพลภาพ
หรือเด็กซึ่งไม่สามารถพึ่งตนเองได้หรือไม่มีผู้ดูแล
หรือด้อยโอกาสหรือเด็กที่มีความสามารถพิเศษ ให้ได้รับการศึกษาภาคบังคับด้วยรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม
รวมทั้งการได้รับสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อบริการและความช่วยเหลืออื่นใดตามความจำเป็น
เพื่อประกันโอกาสและความเสมอภาคในการได้รับการศึกษาภาคบังคับ ประกอบกับนโยบายของคณะรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2562
ได้วางแนวทางพัฒนาอย่างต่อเนื่องผ่านวิสัยทัศน์และการขับเคลื่อนการพัฒนาของผู้นำประเทศในอดีตและในวันนี้วิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนประเทศของรัฐบาลชุดนี้คือ
“มุ่งมั่นให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในศตวรรษที่ 21”
โดยรัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดินด้านการศึกษา คือ
การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย รวมทั้งนโยบายของ
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการตระหนักถึงความสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนา
และเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ประเด็นการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์
การพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์จนถึงปฐมวัย การพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น
การพัฒนาและยกระดับศักยภาพวัยแรงงาน เป็นนโยบายที่สำคัญ
เพื่อเพิ่มโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาและผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษให้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพสามารถดำรงชีวิตในสังคมอย่างมีเกียรติศักดิ์ศรี
เท่าเทียมกับผู้อื่นในสังคม สามารถช่วยเหลือตนเองและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2564)
ตามที่รัฐบาลมีนโยบาย “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่มให้ได้รับสิทธิและโอกาสอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน
กระทรวงศึกษาธิการได้เล็งเห็นความสำคัญในการดำเนินการตามบทบาทและภารกิจการจัดการศึกษาตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล
โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบทำให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาจำนวนมาก
จึงจัดทำโครงการส่งเสริมโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษา“พาน้องกลับมาเรียน” โดยบูรณาการดำเนินงานร่วมกัน 12
หน่วยงาน ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) เพื่อสร้างโอกาสให้กับเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา
ทั้งเด็กปกติและเด็กพิการ ให้ได้รับการศึกษาที่ดี มีคุณภาพ
ผลจากการดำเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
พบว่า นักเรียนที่มีความเสี่ยงในการออกกลางคันจำนวน 6 คน ได้แก่ ขาดเรียนบ่อย
ไม่สนใจเรียน ติดต่อไม่ได้ติดต่อกัน 2-3 วัน
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ได้รับแก้ไขและแก้ปัญหาโดยใช้ระบบการมีส่วนร่วม ของครูประจำชั้น
ครูผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน หัวหน้างานบริหารวิชาการ
และผู้บริหาร
โรงเรียนบ้านดอนทราย เห็นความสำคัญในการสร้างโอกาสและความเสมอภาค
ลดความเหลื่อมล้ำให้กับผู้เรียนทุกคน
ให้ได้รับบริการทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ดังนั้น
เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และสอดคล้องตามพันธกิจของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
จึงมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวให้ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
ตลอดจนป้องกันเด็กออกจากระบบการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน
จึงได้นำนวัตกรรม “เสริม สร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้ คู่คุณธรรมนำความสุข ด้วยรูปแบบ
B2 DONSAI
MODEL” ถือเป็นหนึ่งของการปฏิบัติที่มีความเป็นเลิศที่มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการ
PDCA เน้นวินัยเชิงบวก
ผ่านการช่วยเหลือ สนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้อง