ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning: PBL)
ผู้วิจัย กิตติภัฎ ฤทธิ์สุวรรณ
ปีการศึกษา 2562
วันที่เผยแพร่ 1 สิงหาคม 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง
พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิต ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เรื่อง พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิต กับเกณฑ์ร้อยละ 80 3)
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เรื่อง พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิต ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน 4) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เรื่อง พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิต กับนักเรียนที่เรียนตามปกติ 5)
เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เรื่อง พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิต
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ จำนวน 2 ห้องเรียน รวม 77 คน
ได้มาโดยวิธีการสุjมแบบแบjงกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
แผนการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน กับแผนการเรียนรู้แบบปกติ
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
และแบบสอบถามความพึงพอใจในการเรียนรู้ที่มีต่อการจัดกิจกรรม การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เรื่อง พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิตของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ค่าร้อยละ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เรื่อง พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
มีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 95.61/86.65 เป็นไปตามเกณฑ์มาตราฐานที่ตั้งไว้
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เรื่อง พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
3) นักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เรื่อง พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
0.05 4) นักเรียนที่เรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เรื่อง พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิต ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่านักเรียนที่เรียนตามปกติ 5) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
4 ที่เรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง
พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสุภาษิต มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.65