ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based learning) ร่วมกับชุดฝึกทักษะ เรื่อง สมบัติทางกายภาพของวัสดุ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยอง (วัดตรีรัตนาราม)
ผู้วิจัย เสาวนีย์ อารีรักษ์
ปีการศึกษา 2566
วันที่เผยแพร่ 3 ตุลาคม 2567
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบ การสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based learning) ร่วมกับชุดฝึกทักษะเรื่อง สมบัติทางกายภาพของวัสดุ ของนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยอง (วัดตรีรัตนาราม)
ผู้วิจัย              นางเสาวนีย์   อารีรักษ์
ปีการศึกษา      2566
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย  ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
และความสามารถในการคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์ 
โดยใช้รูปแบบการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน
(Problem-Based learning) ร่วมกับชุดฝึกทักษะ
เรื่อง สมบัติทางกายภาพของวัสดุ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  โรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยอง
(วัดตรีรัตนาราม)  2)
เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยอง
(วัดตรีรัตนาราม)                              3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนมีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
และความสามารถในการคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์ 
โดยใช้รูปแบบการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน
(Problem-Based learning) ร่วมกับชุดฝึกทักษะ
เรื่อง สมบัติทางกายภาพของวัสดุ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  โรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยอง
(วัดตรีรัตนาราม)  ดำเนินการวิจัยแบบวิจัยและพัฒนา
(Research and Development) มี  4 
ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 
การศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน
(Problem-Based learning) นำข้อมูลมากำหนดโครงสร้าง
องค์ประกอบของรูปแบบการสอน 
และสร้างแผนการจัดการเรียนรู้   ขั้นตอนที่
2  การพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอน  โดยการนำรูปแบบการสอนไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลองที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง
ขั้นตอนที่ 3
ทดลองใช้รูปแบบการสอนโดยการนำรูปแบบการสอนไปทดลองใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่าง คือ  นักเรียน                         ชั้นประถมศึกษาปีที่  4 
โรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยอง
(วัดตรีรัตนาราม)  จำนวน 
32  คน                        ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง
(Purposive Sampling)  ขั้นตอนที่ 4
การสรุปและประเมินผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based
learning) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน เรื่องโรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยอง
(วัดตรีรัตนาราม)   เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย  ได้แก่ 
1)  แผนการจัดการเรียนรู้  2) ชุดฝึกทักษะ เรื่อง สมบัติทางกายภาพของวัสดุ  3)  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้  4) 
แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้   ค่าร้อยละ 
ค่าเฉลี่ย 
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 
การทดสอบค่าที 
และการวิเคราะห์เนื้อหา 
ผลการศึกษาพบว่า
1. รูปแบบการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL)
เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  4  มีองค์ประกอบคือ 1)  รูปแบบการสอน ซึ่งประกอบด้วย  หลักการ 
จุดมุ่งหมาย  เนื้อหาสาระ
กระบวนการจัดการเรียนรู้และการวัดและประเมินผล 2) แผนการจัดการเรียนรู้  รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีกระบวนการเรียนรู้  6 
ขั้นตอนคือ 1) ขั้นเรียนรู้สถานการณ์  2)  ขั้นทำความเข้าใจกับปัญหา  3)  ขั้นดำเนินการศึกษาค้นคว้า  4)  ขั้นสังเคราะห์ความรู้   5)  ขั้นสรุปและประเมินค่าของคำตอบ และ  6)  ขั้นนำเสนอและประเมินผลงาน  มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการและผลลัพธ์
(E1/E2) เท่ากับ 88.63/89.24 เมื่อเทียบกับเกณฑ์
80/80  ปรากฏว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2.  ความสามารถในด้านการคิดวิเคราะห์เชิงของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
4   ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05  
          3.  ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
4 ที่มีต่อการเรียนรู้รูปแบบการสอน  แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) เพื่อส่งเสริมทักษะคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์
พบว่า 
นักเรียนมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ระดับมากที่สุด  
 Vichakan.net - เผยแพร่ผลงานวิชาการ
 Vichakan.net - เผยแพร่ผลงานวิชาการ