ชื่อเรื่อง งานวิจัย ศึกษาและพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา วัสดุก่อสร้าง 2 รหัสวิชา 20108 – 2107 สาขาวิชาสถาปัตยกรรม หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 โดยใช้ชุดการสอน
ผู้วิจัย นายสิทธิพร แจ่มสุวรรณ
ปีการศึกษา 2567
วันที่เผยแพร่ 5 ตุลาคม 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีเป็นการรายงานผลศึกษาและพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
รายวิชา วัสดุก่อสร้าง 2 รหัสวิชา 20108 – 2107 สาขาวิชาสถาปัตยกรรม หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ
พุทธศักราช 2562 โดยใช้ชุดการสอน ซึ่งมีวัตถุประสงค์ 4 ประการ ได้แก่ 1)
เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดการสอน รายวิชา
วัสดุก่อสร้าง 2 รหัสวิชา 20108 – 2107 ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ร้อยละ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างผลการเรียนปีการศึกษา
2565 กับปีการศึกษา 2566 ที่เรียนด้วยชุดการสอนวิชา วัสดุก่อสร้าง 2 รหัสวิชา
20108 – 2107 สาขาวิชาสถาปัตยกรรม
ประเภทวิชาอุตสาหกรรม หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ
พุทธศักราช 2562 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน
วิชา วัสดุก่อสร้าง 2 รหัสวิชา 20108 – 2107 โดยใช้ชุดการสอน
และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อชุดการสอน วิชา วัสดุก่อสร้าง 2 รหัสวิชา
20108 – 2107 กลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาสถาปัตยกรรม วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง
ที่ลงทะเบียนเรียน วิชา วัสดุก่อสร้าง
2 รหัสวิชา 20108 – 2107 ในภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2566 จำนวน 3
คน โดยใช้วิธีแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
ได้แก่ ชุดการสอน วิชา วัสดุก่อสร้าง 2 รหัสวิชา 20108 – 2107 มีส่วนประกอบ
ดังนี้ เอกสารประกอบการเรียน สื่อการเรียนรู้ แบบฝึกหัด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน
การวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ
ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดการสอนวิชาวัสดุก่อสร้าง 2 รหัสวิชา 20108 – 2107 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562
ในการหาประสิทธิภาพของชุดการสอน ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ปรากฏว่า
ชุดการสอน มีประสิทธิภาพ 84.81/88.15
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ได้แก่ 80/80
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างผลการเรียนปีการศึกษา
2565 กับปีการศึกษา 2566 ผลปรากฏ การสอนโดยใช้ชุดการสอนวิชา วัสดุก่อสร้าง 2
รหัสวิชา 20108 – 2107 ในปีการศึกษา 2566 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงกว่าปีการศึกษา
2565 (ที่ไม่ได้ใช้ชุดการสอน) ร้อยละ 18.13
3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดการสอน
ผลปรากฏว่า มีความแตกต่างโดยผลการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 แสดงว่าการเรียนด้วยชุดการสอนนี้ทำให้ผู้เรียนมีความรู้และเข้าใจสูงขึ้น
4. ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อชุดการสอน ผลปรากฏว่า
ด้านเนื้อหา มีค่าเฉลี่ย (=
4.77) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D. = 0.42)
ซึ่งอยู่ในระดับเกณฑ์ มีความพึงพอใจมากที่สุด ด้านแบบฝึกหัด มีค่าเฉลี่ย (=
4.54) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D. = 0.60)
ซึ่งอยู่ในระดับเกณฑ์ มีความพึงพอใจมากที่สุด ซึ่งในภาพรวม สรุปได้ว่า นักเรียนมีความพึงพอใจ
โดยมีค่าเฉลี่ย (=
4.65) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D. = 0.54)
ซึ่งอยู่ในระดับเกณฑ์ มีความพึงพอใจมากที่สุด