ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ร่วมกับการสร้างแรงจูงใจในการเรียน เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย พรอนันต์ ผ่านสำแดง
ปีการศึกษา 2567
วันที่เผยแพร่ 18 ธันวาคม 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
(Active
Learning) ร่วมกับการสร้างแรงจูงใจในการเรียน เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 ของโรงเรียนบ้านเหล่าแชแลหนองแวง จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่
แผนการจัดการเรียนเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active
Learning) ร่วมกับการสร้างแรงจูงใจในการเรียน เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 แบบวัดแรงจูงใจที่มีต่อการเรียน ด้วยการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
(Active Learning) ร่วมกับการสร้างแรงจูงใจในการเรียน
เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
(Active
Learning) ร่วมกับการสร้างแรงจูงใจในการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 ผลการวิจัยพบว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active
Learning) ร่วมกับการสร้างแรงจูงใจในการเรียน เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 ประกอบด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้นตอนดังนี้ 1) ขั้นนำและสร้างแรงจูงใจ
(Introduction and motivation : I) 2) ขั้นสำรวจและค้นหา
(Exploration : E ) 3) ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Discussion
and conclusion : D) 4) ขั้นอธิบายขยายความรู้ (Explanation
: E) 5ขั้นประเมินผลผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ (Evaluation :
E) หลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
(Active Learning) ร่วมกับการสร้างแรงจูงใจในการเรียน เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 นักเรียนมีแรงจูงใจในการเรียนเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05 และมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active
Learning) ร่วมกับการสร้างแรงจูงใจในการเรียน เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด