ชื่อเรื่อง : การพัฒนาชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์ โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
ผู้วิจัย ดิเรก ใจดี
ปีการศึกษา 2567
วันที่เผยแพร่ 12 มกราคม 2568
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
1) เพื่อพัฒนาและหาคุณภาพชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้อง
ระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์ โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ 2) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์
โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์
โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ 4) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์
โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ กับเกณฑ์ร้อยละ 75 5) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการปฏิบัติหลังเรียนด้วยชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์
โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ กับเกณฑ์ร้อยละ 75 และ 6) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่เรียนด้วยชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์
โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
(ปวช.) ชั้นปีที่ 1 กลุ่ม 1 ภาคเรียนที่
2 ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี
จำนวน 20 คน ซึ่งได้ มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster
random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม (Sampling
Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์
โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ แบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียน
และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียน
ผลการวิจัยพบว่า
1)
คุณภาพของชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์
โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
โดยรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด
2)
ประสิทธิภาพของชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์
โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ (E1) เท่ากับ 82.56 และ (E2) เท่ากับ 85.06
เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80
ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
และค่าดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของผู้เรียนจากการเรียนโดยใช้ชุดฝึกมีค่าเท่ากับ 0.7825 หรือร้อยละ 78.25
3)
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน
ที่เรียนด้วยชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบ
จุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์ โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ พบว่า หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4)
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน ที่เรียนด้วยชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบ จุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์
โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ เทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 75 พบว่า หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
5)
คะแนนทักษะการปฏิบัติทางการเรียนของผู้เรียน
ที่เรียนด้วยชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อ ขัดข้องระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์
โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์หลังเรียนเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ
75 พบว่าหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ
75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
6)
ความพึงพอใจของผู้เรียน ที่เรียนด้วยชุดฝึกวิเคราะห์หาข้อขัดข้องระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์ โดยวิธีการจำลองปัญหาควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ พบว่า
ความพึงพอใจของผู้เรียนโดย ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด