ชื่อเรื่อง การคาดการณ์คะแนนของคณะแพทยศาสตร์ในสังกัดรัฐบาลจากการสอบ ผ่านทางกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ปีพุทธศักราช 2568
ผู้วิจัย นายพีระวรรตน์ อัครชัยภัค, นางสาวมุทิตา ทองอู๋
ปีการศึกษา 2567
วันที่เผยแพร่ 28 มกราคม 2568
บทคัดย่อ
การสอบในกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทยเพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อที่จะเข้าศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ ด้วยคณะและความต้องการเข้าศึกษาต่อจึงทำให้มีผลคะแนนในระดับที่ค่อนข้างสูง และมีการวิเคราะห์คะแนนเกิดขึ้นเพื่อประเมินความเสี่ยงในการจัดอันดับเพื่อเลือกเข้าศึกษาในคณะแพทย์และในมหาวิทยาลัยที่ต้องการ โดยแต่ละปีคะแนนจะมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ ปี เนื่องจากการเรียนแพทย์นั้นมีความสำคัญ การวิจัยเพื่อประเมินสถิติเพื่อการเตรียมตัวสำหรับการคาดการณ์คะแนนสอบจึงมีความสำคัญ ดังนั้นผู้จัดทำจึงได้จัดทำวิจัยนี้ขึ้นเพื่อให้นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ทราบและเตรียมพร้อมในการสอบและการคาดการณ์คะแนนยังใช้เป็นการเทียบคะแนนของตนเองกับแนวโน้มที่เป็นไปได้ โดยการคาดการณ์คะแนนสอบและอัตราสูงสุด ต่ำสุด และค่าเฉลี่ยที่มีในปีถัดไปค่อนข้างที่จะซับซ้อนจึงได้ทำการศึกษาค้นคว้าทางหลักสถิติเพื่อที่จะสามารถสรุปผลของการคาดการณ์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเทียบเคียงสำหรับการสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยสังกัดรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ ผลการทดลอง จากการสรุปข้อมูลผ่านหลักการทางสถิติแล้วนั้น พบว่ามีการรับสมัครที่ลดลง และมีอัตราคะแนนต่ำสุดคะแนนเฉลี่ย และคะแนนสูงสุดเพิ่มขึ้นในทุกส่วนของข้อมูลและทุกมหาวิทยาลัย เนื่องจากการแข่งขันและการลดจำนวนรับทำให้คะแนนในส่วนต่ำสุดถูกยกระดับขึ้นจากในอดีต นอกจากนี้อัตราคะแนนส่วนสูงสุด ก็มิได้แตกต่างไปจากในอดีตแต่อย่างใด แต่อาจจะมีความแปรปรวนของข้อมูลที่ทำให้ค่าสูงสุดนั้นถูกดึงลงมาได้เล็กน้อย นอกจากนี้ ค่าเฉลี่ยมีแนวโน้มที่จะเอนไปทางต่ำ แสดงให้เห็นว่านักเรียนในปี 68 มีแนวโน้มที่จะเกาะกลุ่มคะแนนอยู่ระหว่างค่าต่ำสุดและค่าเฉลี่ย มากกว่าจะอยู่ในจุดสูงสุด ซึ่งแสดงให้เห็นในตารางว่า การทำให้ได้ราวๆค่าเฉลี่ยในอดีตของแต่ละที่ ก็เพียงพอต่อการเข้าคณะแพทย์คณะแพทย์ที่ใฝ่ฝันได้ และเมื่อผ่านการสอบและทราบผลคะแนนแล้ว ก็อาจจะนำงานวิจัยนี้ไปเป็นตัวเทียบเคียงเพื่อเข้าสู่การประเมินตัวเลขเพื่อจัดอันดับในระบบ TCAS ต่อไปในอนาคต ได้แสดงให้เห็นว่านักเรียนไทยยังคงให้ความสำคัญและความสนใจในการเข้าศึกษาต่อในคณะแพทย์อย่างจริงจังและมีความมุ่งมั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่าง ต่อเนื่องในทุก ๆ ปี นอกจากนี้ การวิจัยนี้จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้เห็นว่า ความนิยมในคณะแพทยศาสตร์ยังเป็นคณะที่นิยมในหมู่นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 มาโดยตลอด