การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการนิเทศสำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม โดยมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนและการดูแลช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มพิเศษ ผลการวิจัยได้พัฒนา "รูปแบบการนิเทศ P-CARE Model" ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านการนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา โดยมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้

  P - Planning (การวางแผน): กระบวนการวิเคราะห์สภาพปัญหา กำหนดเป้าหมาย และวางแผนการนิเทศอย่างเป็นระบบโดยคำนึงถึงความต้องการจำเป็นพิเศษของผู้เรียนเป็นรายบุคคล

  C - Coaching (การชี้แนะ): การให้คำปรึกษา แนะนำ และชี้แนะแก่ครูผู้สอนในการปรับวิธีการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับศักยภาพของผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ

  A - Action (การปฏิบัติ): การนำแผนและคำแนะนำไปปฏิบัติจริงในชั้นเรียน โดยเน้นการมีส่วนร่วมระหว่างศึกษานิเทศก์ ครู และผู้ปกครอง

  R - Reflection (การสะท้อนคิด): กระบวนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สะท้อนปัญหา อุปสรรค และความสำเร็จ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงวิธีการจัดการเรียนการสอน

  E - Evaluation (การประเมินผล): การประเมินผลการดำเนินงานตามรูปแบบการนิเทศ ทั้งในด้านกระบวนการและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน

  ผลการใช้รูปแบบการนิเทศ P-CARE Model พบว่า ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจและทักษะในการจัดการเรียนการสอนสำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษเพิ่มขึ้น สามารถพัฒนาสื่อและนวัตกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสม ส่งผลให้ผู้เรียนมีพัฒนาการด้านการเรียนรู้ที่ดีขึ้น มีความมั่นใจและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้มากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าเกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รูปแบบการนิเทศ P-CARE Model จึงเป็นนวัตกรรมการนิเทศที่มีประสิทธิภาพ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาสำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในบริบทอื่นๆ ได้

ที่อยู่อ้างอิง (URL) : https://publish.vichakan.net/show/1092
จำนวนการเข้าชม : 16 ครั้ง