ชื่อเรื่อง การศึกษาผลการเรียนรู้ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รูปแบบ 5E เรื่อง สารอาหารและการย่อยอาหารของนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม
ผู้วิจัย นางสาวศิรประภา หอมขจร
ปีการศึกษา 2567
วันที่เผยแพร่ 10 มิถุนายน 2568
บทคัดย่อ
งานวิจัยในครั้งนี้
เป็นงานวิจัยในชั้นเรียนมีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาแนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
รูปแบบ 5E เรื่องสารอาหารและการย่อยอาหารที่ส่งเสริมผลการเรียนรู้ของนักศึกษาศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม
2)เพื่อศึกษาผลการเรียนรู้หลังการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
รูปแบบ 5E ของนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม
3)เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้หลังการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
รูปแบบ 5E ของนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุมกับเกณฑ์มาตรฐาน
กลุ่มศึกษาคือ นักศึกษาศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม จำนวน 6
คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
รูปแบบ 5E เรื่องสารอาหารและการย่อยอาหาร 2) แบบบันทึกหลังสอน 3) ใบกิจกรรม แบบสังเกต
แบบประเมินทักษะกระบวนการ และแบบการประเมินตนเอง เก็บรวบรวมข้อมูล ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 ในการดำเนินการวิจัยตามวงจร PAOR
(Plan-Act-Observe-Reflect) สำหรับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
(5E) เรื่องสารอาหารและการย่อยอาหาร การวิเคราะห์ข้อมูลจากวงจร
PAOR ที่ดำเนินการ 2 รอบ ตามวัตถุประสงค์การวิจัยศึกษา
แนวปฏิบัติที่ดีในการสอน และ ผลการเรียนรู้ 3 ด้าน (ความรู้ ทักษะกระบวนการ
และเจตคติ) ผลการวิจัยพบว่านักศึกษามีผลการเรียนรู้ เท่ากับหรือสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 และเมื่อเปรียบเทียบในวงจรที่ 1 และวงจรที่ 2 จะเห็นได้ว่าวงจรที่ 2 นักศึกษามีการพัฒนาผลการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นจากวงจรที่ 1 เนื่องการในวงจรที่ 2 การปฏิบัติที่ดีของครู คือ ครูออกแบบกิจกรรมที่เป็นตัวแทนที่ดี ทำให้นักศึกษาเห็นภาพการย่อยอาหารได้ชัดเจน และสามารถนำความรู้ที่เป็นนามธรรมมาทำให้เป็นรูปธรรม
ซึ่งนักศึกษาก็ทำกิจกรรมด้วยความตั้งใจ สนุกสนาน มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม ได้ลงมือปฏิบัติจริง การให้คำแนะนำในขณะที่ปฏิบัติกิจกรรม ครูเริ่มตั้งคำถามจากสิ่งที่นักศึกษาพบเจอ หรือจากประสบการณ์ที่นักศึกษาเคยมีมาแล้วเชื่อมโยงไปยังคำถามในเชิงวิทยาศาสตร์
เป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ และช่วยให้นักศึกษามีส่วนร่วมในชั้นเรียน มีปฏิสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้นระหว่างครูและนักศึกษา