ชื่อเรื่อง นวัตกรรมหนังสือส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการอ่านและเขียนภาษาไทย “นิทานตัวสะกด ชุด Nongkhai : The City of Naga” โดยใช้รูปแบบการสอน CIPPA Model สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
ผู้วิจัย นางสาวสุพรรษา อินทรวิศิษฎ์
ปีการศึกษา 2567
วันที่เผยแพร่ 27 กรกฎาคม 2568
บทคัดย่อ
การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวข้างต้นปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้มีปัจจัยหลายด้าน
ประกอบด้วย 1) ด้านตัวนักเรียน พบว่า นักเรียนมีความพร้อมที่แตกต่างกัน
เด็กแต่ละคนมีความพร้อมทางสติปัญญาและพัฒนาการที่แตกต่างกัน
ทำให้บางคนอาจมีพื้นฐานที่ไม่เพียงพอสำหรับการเรียนรู้การอ่านและการเขียน
ปัญหาการเรียนรู้ (Learning
Disabilities - LD): เช่น โรคดิสเล็กเซีย (dyslexia) ที่ส่งผลต่อการอ่านและการเขียน สมาธิสั้น (ADHD) ทำให้เด็กมีสมาธิในการเรียนรู้ส่งผลให้เกิดภาวะการเรียนรู้ถดถอย
(Learning Loss) ขาดแรงจูงใจในการเรียน
เด็กอาจไม่เห็นความสำคัญของการอ่านและการเขียน หรือรู้สึกว่าการเรียนรู้ยากเกินไป 2)
ปัจจัยด้านครอบครัว ครอบครัวยากจนทำให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้
หรือต้องขาดเรียนบ่อยๆ ขาดการส่งเสริมการเรียนรู้ที่บ้าน
พ่อแม่ไม่ได้อ่านหนังสือให้ลูกฟัง หรือไม่ได้สนับสนุนการเรียนรู้ภาษา เด็กที่ไม่ได้พูดภาษาไทยที่บ้าน
อาจมีปัญหาในการเรียนรู้ภาษาไทยในโรงเรียน 3) ปัจจัยด้านการเรียนการสอน ครูสอนไม่ตรงวิชาเอก อาจทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่มีประสิทธิภาพ
ครูไม่เพียงพอหรือขาดแคลนครู ทำให้ครูไม่สามารถดูแลนักเรียนได้อย่างทั่วถึง
วิธีการสอนไม่เหมาะสม เช่น
ไม่ได้เน้นการสอนแบบโฟนิกส์ที่ช่วยให้เด็กเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเสียงและตัวอักษร
4) ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมในโรงเรียนไม่เอื้อต่อการเรียนรู้
เช่น สภาพห้องเรียนไม่เหมาะสม หรือมีสิ่งรบกวนสมาธิ สื่อการเรียนการสอนไม่เพียงพอ
ทำให้เด็กไม่มีโอกาสฝึกฝนการอ่านและการเขียนอย่างเหมาะสม
ผลกระทบของปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
ได้แก่ 1) ผลการเรียนต่ำเด็กอาจตามไม่ทันเพื่อนในชั้นเรียน
และมีปัญหาในการทำแบบฝึกหัดหรือข้อสอบ 2)
ขาดความมั่นใจในตนเอง เด็กอาจรู้สึกว่าตนเองโง่ หรือไม่มีความสามารถ
ทำให้ไม่อยากไปโรงเรียน 3) มีปัญหาด้านอารมณ์และสังคม เด็กอาจมีปัญหาในการเข้าสังคม
หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม 4) มีโอกาสในการประกอบอาชีพและการใช้ชีวิตที่จำกัด
การอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ อาจเป็นอุปสรรคในการหางาน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งจากการสังเคราะห์เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหา
เพื่อการส่งเสริมการอ่านและการเขียนตั้งแต่เด็กประถม
โดยสถานศึกษาได้ดำเนินการขับเคลื่อนจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเขียนในโรงเรียน
เช่น การจัดห้องสมุด การอ่านหนังสือเป็นกลุ่ม
การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษา พัฒนาวิธีการสอนที่เหมาะสม เช่น
การสอนแบบโฟนิกส์ การใช้สื่อการเรียนการสอนที่หลากหลาย แก้ปัญหาเฉพาะตัวของเด็ก เช่น
การส่งเสริมเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ การให้ความช่วยเหลือพิเศษ
สร้างความร่วมมือระหว่างบ้าน โรงเรียน และชุมชน พ่อแม่ ครู
และผู้เกี่ยวข้องควรทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้
การแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
เพื่อให้เด็กไทยทุกคนมีโอกาสในการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม
และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียนชุมชนบ้านพวกจึงมุ่งส่งเสริมให้นักเรียนพัฒนาความรู้แบบบูรณาการ เน้นให้นักเรียนเกิดความรู้
ความคิด และการตัดสินใจอย่างเป็นระบบ
สามารถสร้างความรู้ ค้นพบความรู้ได้ด้วยตนเอง
นักเรียนมีบทบาทมากในกิจกรรมการเรียนการสอน เสริมพัฒนาด้านการอ่าน
การเขียนในวิชาภาษาไทย ส่งผลให้นักเรียนเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ
มีคุณภาพทั้งด้านอารมณ์ สังคม และสติปัญญา แผนจัดการเรียนรู้
และวิธีการจัดการเรียนรู้มีคุณภาพ ผ่านการทบทวนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
๑ ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญจากการเรียนรู้แบบปฐมวัยสู่การเรียนรู้แบบมีระบบ
นักเรียนจำเป็นต้องได้รับ
การส่งเสริมทักษะการอ่านออกเสียง การสะกดคำ การเขียนคำถูกต้องตามหลักภาษา รวมถึง
การเข้าใจความหมายของข้อความในระดับพื้นฐาน
จากการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมา
พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนชุมชนบ้านพวก จังหวัดหนองคาย
ส่วนใหญ่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการอ่านและเขียน
โดยเฉพาะการสะกดคำที่มีตัวสะกดตรงตามมาตรา เช่น แม่กก แม่กด แม่กบ ฯลฯ นักเรียนมีความสับสนในเสียงพยัญชนะท้าย
ไม่สามารถเชื่อมโยงเสียงกับรูปของตัวสะกดได้ ส่งผลให้การอ่านขาดความคล่อง
การเขียนขาดความถูกต้อง และขาดความมั่นใจในการใช้ภาษา สื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในห้องเรียนมักเป็นแบบฝึกทั่วไปที่ขาดความน่าสนใจ
ไม่สามารถจูงใจหรือสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนเกิดความรักและสนุกกับการเรียนภาษาไทยได้
อีกทั้งยังไม่เชื่อมโยงกับบริบทท้องถิ่นหรือวิถีชีวิตของนักเรียน
ทำให้ขาดความหมายและความผูกพันกับการเรียนรู้ ครูผู้สอนจึงเล็งเห็นความจำเป็นในการพัฒนาสื่อนวัตกรรมที่มีเนื้อหาสอดคล้องเหมาะสมกับระดับความสามารถของนักเรียน
และสอดแทรกคุณค่าท้องถิ่นของจังหวัดหนองคาย ได้แก่ นวัตกรรมหนังสือนิทานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการอ่านและการเขียนภาษาไทย
โดยเน้นการฝึกใช้คำที่มีตัวสะกดตรงตามมาตราภาษาไทย
ผ่านเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับตำนานและบริบทท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง
การสะกดคำ และการเขียนอย่างถูกต้องของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้
CIPPA Model ที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง
และส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านและเขียนภาษาไทยของนักเรียนให้สูงขึ้น
ต่อไป
ดังนั้น ข้าพเจ้าในฐานะครูเป็นครูผู้รับผิดชอบในรายวิชาภาษาไทย
โรงเรียนชุมชนบ้านพวก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้
การพัฒนาการอ่านและเขียนภาษาไทยของนักเรียน โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนเกิดความรู้
ความคิด และการตัดสินใจอย่างเป็นระบบ สามารถสร้างความรู้ ค้นพบความรู้ได้ด้วยตนเอง
นักเรียนมีบทบาทมากในกิจกรรมการเรียนการสอน
และนักเรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน โดยใช้นวัตกรรมหนังสือส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการอ่านและเขียนภาษาไทย
“นิทานตัวสะกด ชุด Nongkhai : The
City of Naga” โดยใช้รูปแบบการสอน CIPPA Model สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โดยมีแนวคิดที่เกี่ยวข้องซึ่งจะได้นำเสนอตามลำดับต่อไป
Vichakan.net - เผยแพร่ผลงานวิชาการ