ชื่อเรื่อง รูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนโดยใช้กระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนเทศบาล 1 (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์
ผู้วิจัย ทิพย์วรินทร์ ภัทธาธรดิษกุล
ปีการศึกษา 2566
วันที่เผยแพร่ 28 กรกฎาคม 2568
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้
มีวัตถุประสงค์ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนโดยใช้กระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนเทศบาล
1 (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบฯ
3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบฯ และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบ
กลุ่มเป้าหมายของการพัฒนา ได้แก่ ครูผู้สอนในสังกัดของโรงเรียนเทศบาล 1
(วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ที่ปฏิบัติการสอนในปีการศึกษา 2566 จำนวน 44 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุดฝึกทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูนักวิจัย
คู่มือการฝึกทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน แบบทดสอบความรู้ด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
แบบประเมินสมรรถนะครูนักวิจัย และแบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อชุดฝึกทักษะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนโดยใช้กระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนเทศบาล
1 (วัดเทวสังฆาราม)
ในพระสังฆราชูปถัมภ์ พบว่า โดยภาพรวมครูผู้สอนในสภาพปัจจุบันมีการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนอยู่ในระดับมาก
(m = 3.62, s = 1.03)
และมีความต้องการพัฒนาด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด (m = 4.56, s = 0.92)
โดยแนวทางการพัฒนาครูด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนโดยใช้กระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
ได้แก่ การพัฒนาครูด้วยกระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการ
เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เข้ารับการอบรม ผ่านกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง
การคิดวิเคราะห์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และร่วมกันสร้างองค์ความรู้
2. ผลการพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนโดยใช้กระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนเทศบาล 1 (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ พบว่า ได้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูนักวิจัยมีองค์ประกอบที่สำคัญ 6 ส่วน ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 หลักการของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ องค์ประกอบที่ 3 ระบบและกลไกสนับสนุน การ
|
ดำเนินงาน องค์ประกอบที่ 4 ขั้นตอนการดำเนินงาน โดยใช้กระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการ
8 Modul ได้แก่ Modul 1 การสร้างอุดมการณ์ครูนักวิจัย
Modul 2 การวิเคราะห์ปัญหาผู้เรียน
Modul 3 การคิดค้นนวัตกรรมการเรียนรู้ Modul 4 การกำหนดหัวข้อการวิจัย Modul 5 การสร้างเครื่องมือวิจัย
Modul 6 ปฏิบัติการแก้ปัญหาผู้เรียน Modul 7 การวิเคราะห์ข้อมูลวิจัย และ Modul 8 การเขียนรายงานผลการวิจัย
องค์ประกอบที่ 5 แนวทางการประเมินผล และ องค์ประกอบที่ 6 เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ โดยผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนโดยใช้กระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนเทศบาล
1 (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่าโดยรวมมีความเหมาะสม
(m = 4.73, s = 0.36) ความเป็นไปได้
(m = 4.82, s = 0.32) และความเป็นประโยชน์
(m = 4.68, s = 0.43)
อยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนโดยใช้กระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนเทศบาล
1 (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย พบว่า ครูผู้สอนมีคะแนนการทดสอบความรู้ด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน เพิ่มขึ้นทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 ครูผู้สอนมีคะแนนการประเมินความสามารถด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน เพิ่มขึ้นทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 และครูผู้สอนมีคะแนนการประเมินเจตคติต่อการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน เพิ่มขึ้นทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100
4. ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการพัฒนาครูด้านการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนโดยใช้กระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนเทศบาล
1 (วัดเทวสังฆาราม)
ในพระสังฆราชูปถัมภ์ พบว่า โดยรวมครูผู้สอนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (m = 4.44,
s = 0.86) และมีการปรับปรุงรูปแบบโดยเพิ่มเติมรายละเอียดในขั้นตอนการดำเนินงานข้อที่
2 การอบรมเชิงปฏิบัติการ Modul
การอบรมเชิงปฏิบัติการ Modul 2 การอบรมเชิงปฏิบัติการ
Modul 3 การอบรมเชิงปฏิบัติการ Modul การอบรมเชิงปฏิบัติการ
Modul 5 การอบรมเชิงปฏิบัติการ Modul 6
การอบรมเชิงปฏิบัติการ Modul 7 และการอบรมเชิงปฏิบัติการ Modul
8 ตามลำดับ
Abstract
This
research aimed to: 1) study basic information, 2) develop a model, 3) trial use of the
model, and 4) evaluate and improve the model. The target
group for the development was 44 teachers of Thesaban
School 1 (Wat Thewsangkharam) under the patronage of the
Supreme Patriarch, who taught in the academic year 2023. The
research instruments included the model manual, knowledge test, ability
assessment form, attitude test, and satisfaction questionnaire. Means,
percentages, and standard deviations were analyzed. The research results
revealed that: 1. Teacher development guidelines
encompassed workshop processes, analytical thinking, exchanging experiences,
and collaborative knowledge creation. 2. The teacher
development model consisted of 6 main components: 1) principles, 2) objectives, 3) systems and mechanisms, 4) implementation
steps, using an 8-Module workshop process, 5)
evaluation guidelines, and 6) conditions for model
application. The results of the model evaluation by experts found that overall,
it was most appropriate, feasible, and useful. 3. The
results of the model trial found that teachers had increased knowledge in
classroom action research and increased their ability in classroom action
research. and have an increased attitude towards classroom action research. 4. The results of the evaluation and improvement of the model.
Overall, teachers are very satisfied and have improved the model by adding more
details in the steps of the model's operation to make it clearer.
Keywords : Classroom action research, workshop process, professional learning
community