ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้การมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านเปือยนาสูง
ผู้วิจัย นางสาวพิไลพร มลีรัตน์
ปีการศึกษา 2567
วันที่เผยแพร่ 31 กรกฎาคม 2568
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงโดยใช้การมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21
โรงเรียนบ้านเปือยนาสูง
ผู้วิจัย นางสาวพิไลพร มลีรัตน์
โรงเรียน โรงเรียนบ้านเปือยนาสูง
ตำบลตะดอบ อำเภอเมืองฯ จังหวัดศรีสะเกษ
องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีการศึกษา ปีการศึกษา 2567
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้การมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านเปือยนาสูงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อประเมินโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้การมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านเปือยนาสูง โดยใช้ CIPPIEST Model 2) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะ ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้การมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านเปือยนาสูง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 127 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) กลุ่มที่ 2 นักเรียนโรงเรียนบ้านเปือยนาสูง จำนวน 358 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) กลุ่มที่ 3 กลุ่มเป้าหมาย สำหรับการเก็บข้อมูลโดยการสนทนากลุ่ม (Focus group) ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection) จำนวน 12 คน การประเมินโครงการครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงประเมิน โดยใช้ CIPPIEST Model ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัย คือปีการศึกษา 2567 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามการประเมินโครงการพัฒนาภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้การมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านเปือยนาสูง มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale)มี 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 สำหรับผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 80 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.22 – 0.85 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 ฉบับที่ 2 สำหรับนักเรียน จำนวน 20 ข้อ และมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.21 – 0.86 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการประเมินโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้การมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่
21 โรงเรียนบ้านเปือยนาสูง โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56, S.D.= 0.63) ข้อที่มีระดับคุณภาพมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ด้านผลผลิต (P:
Product) อยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.67, S.D.= 0.65) รองลงมาคือด้านกระบวนการ (P: Process) อยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.64, S.D.= 0.53) และด้านสภาวะแวดล้อม (C: Context)
อยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.55, S.D.= 0.52) ส่วนข้อที่มีระดับคุณภาพน้อยที่สุด คือ ด้านการถ่ายโยงความรู้ (T:
Transportability) อยู่ในระดับมาก (
= 4.45, S.D.= 0.62)
2. ผลการศึกษาข้อเสนอแนะ ปัญหา
อุปสรรค และแนวทางการดำเนินงาน โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้การมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่
21 โรงเรียนบ้านเปือยนาสูง พบว่า โครงการสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรมในหลายด้าน
โดยเฉพาะการส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะในศตวรรษที่ 21 ที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริง อาทิ ความรับผิดชอบ
การทำงานร่วมกับผู้อื่น
และการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวัน
ทั้งยังส่งผลให้เกิดความร่วมมือระหว่างครู นักเรียน ชุมชน
และหน่วยงานภายนอกในการพัฒนาฐานการเรียนรู้ของโรงเรียนอย่างยั่งยืนอย่างไรก็ตาม เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
ควรส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมและฐานการเรียนรู้ให้ตอบสนองต่อความต้องการของนักเรียนและครูมากยิ่งขึ้น จัดให้มีระบบนิเทศ ติดตาม และประเมินผลอย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งนำผลการประเมินไปใช้เพื่อพัฒนาโครงการอย่างเป็นระบบนอกจากนี้ควรเสริมสร้างความตระหนักและความเข้าใจร่วมกันของครูและบุคลากรในการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเข้าสู่การจัดการเรียนรู้
โดยเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน พัฒนาระบบบริหารจัดการ การจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสม สร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) กำหนดบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจน
ส่งเสริมการยกย่องเชิดชูเกียรติ และสนับสนุนการใช้แหล่งเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน