Vichakan.net - เผยแพร่ผลงานวิชาการ

ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเพื่อส่งเสริมให้เกิด การเรียนรู้แบบยั่งยืนของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3วัดเนรัญชรา

ผู้วิจัย นางสาววชิราภรณ์ จุลราลัย

ปีการศึกษา 2568

วันที่เผยแพร่ 4 สิงหาคม 2568

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง         การพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเพื่อส่งเสริมให้เกิด     
                        การเรียนรู้แบบยั่งยืนของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3วัดเนรัญชรา  
                  เทศบาลเมืองชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
    ผู้วิจัย         นางสาววชิราภรณ์   จุลราลัย
   สถานศึกษา       โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเนรัญชรา
   ปีที่ศึกษา          2566

บทคัดย่อ

การพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้แบบยั่งยืนของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเนรัญชรา เทศบาลเมืองชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการของครูโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเนรัญชรา  เทศบาลเมืองชะอำ  จังหวัดเพชรบุรี ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน 2) พัฒนากลยุทธ์และพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน  3) ศึกษาผลการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน 4) ศึกษาความพึงพอใจของครูที่มีต่อการพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action  Research) โดยผู้วิจัยได้นำเอาหลักการและขั้นตอนตามแนวคิดของ Kemmis and Mc Taggart  มาใช้ในการดำเนินการพัฒนาโรงเรียนในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน  ประกอบด้วย 4  ขั้นตอน คือ การวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) โดยได้แบ่งระยะเวลาดำเนินการออกเป็น 2 วงรอบ คือ วงรอบที่ 1 ระยะเวลาตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2566  ถึง 31 ตุลาคม 2566และวงรอบที่ 2 ระยะเวลาตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง 31 มีนาคม 2567 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ ในการวิจัย คือ ผู้สอนในโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเนรัญชรา  เทศบาลเมืองชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ในปีการศึกษา 2566 จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบทดสอบ  แบบสังเกตแบบมีส่วนร่วม แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง แบบบันทึกผลการนิเทศภายใน  แบบประเมินความพึงพอใจและแบบบันทึกการประเมินคุณภาพผลงานที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้การหาค่าเฉลี่ย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content  Analysis)  เพื่ออธิบายและสรุปเป็นความเรียง การรายงานด้วยการบรรยาย (Descriptive Methodology) การนำข้อมูลมาตีความหมาย (Interpretive Methodology) และวิธีการวิเคราะห์วิจารณ์ (Critical  Methodology)
        การวิจัยและพัฒนากลยุทธ์ในการพัฒนาโรงเรียนเข้มแข็งด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานในโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเนรัญชรา  เทศบาลเมืองชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้กลยุทธ์  4 กลยุทธ์ คือ                     กลยุทธ์การวิเคราะห์แบบ SWOT กลยุทธ์การอบรมเชิงปฏิบัติการ  กลยุทธ์การศึกษาดูงาน และกลยุทธ์การนิเทศแบบโค้ชชิ่งทำให้ได้วงรอบการพัฒนา 2 วงรอบ สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้

1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการของครูโรงเรียนเทศบาล  3 วัดเนรัญชรา  ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน
ผลการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการของครูโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเนรัญชรา เทศบาลเมืองชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โดยวิธีการสนทนากลุ่ม โดยใช้ข้อมูลจากสภาพการจัดการศึกษา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของโรงเรียน ปีการศึกษา 2566 ปรากฏผลดังนี้
วงรอบที่ 1  พบว่า ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนยังมีปัญหาในส่วนของงานวิชาการที่จะต้องมีการปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ครูยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ขาดการศึกษาหลักสูตร การวิเคราะห์หลักสูตร การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตลอดจนการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามลำดับขั้นของการจัดกระบวนการเรียนรู้ ไม่ศึกษาความต้องการของผู้เรียน การสอนใช้วิธียึดเนื้อหาในหนังสือเรียนเป็นหลัก ผู้เรียนขาดการฝึกทักษะในการเรียนรู้ ไม่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนรวมทั้งการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ไม่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนพัฒนาในด้านการคิดวิเคราะห์  คิดสังเคราะห์ ขาดเทคนิคการสอนที่เหมาะสม ไม่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นมีผลให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่าย  
วงรอบที่ 2  จากการสะท้อนผลจากกลยุทธ์การวิเคราะห์แบบ SWOT กลยุทธ์การฝึกอบรม                        เชิงปฏิบัติการ กลยุทธ์การศึกษาดูงาน และกลยุทธ์การนิเทศภายใน ในวงรอบที่ 1 พบว่า ครูที่ยังดำเนินการไม่ได้ และต้องได้รับการพัฒนาในวงรอบที่ 2 มี จำนวน 19 คน ต้องพัฒนาในด้านกระบวนการทำโครงงานขั้นการเขียนรายงานโครงงาน การประเมินโครงงานและการสร้างเครื่องมือประเมินให้สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ เพื่อให้ครูเกิดความรู้ความเข้าใจและเกิดทักษะในเรื่องการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน  โดยใช้กลยุทธ์กลยุทธ์การวิเคราะห์แบบ SWOT กลยุทธ์การฝึกอบรม เชิงปฏิบัติการ กลยุทธ์การศึกษาดูงาน และกลยุทธ์การนิเทศแบบโค้ชชิ่ง เพื่อช่วยเหลือครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นโดยได้นำเอาหลักการและขั้นตอนตามแนวคิดของ Kemmis and Mc Taggart  มาใช้ในการดำเนินการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือ การวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) ซึ่งปรากฏผลตามลำดับดังนี้
กลยุทธ์การวิเคราะห์แบบ SWOT กลยุทธ์การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ กลยุทธ์การศึกษาดูงาน  โดยครูกลุ่มเป้าหมาย 19 คน ต้องมีการพัฒนาในด้านกระบวนการวิเคราะห์แบบ SWOT การฝึก                     กอบรมเชิงปฏิบัติการ และศึกษาดูงานในด้านกระบวนการทำโครงงาน การเขียนรายงานโครงงาน การประเมินโครงงาน และการสร้างเครื่องมือประเมิน ให้สอดคล้องกับสาระสาระการเรียนรู้