ชื่อเรื่อง การจัดประสบการณ์โดยใช้กิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดเด็กปฐมวัย โรงเรียนวัดสุวรรณคีรี
ผู้วิจัย นางสาวรุ่งนภา ธรรมะติ
ปีการศึกษา 2568
วันที่เผยแพร่ 7 สิงหาคม 2568
บทคัดย่อ
การดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในทุกระดับการศึกษาต้องมุ่งสร้าง
ความสนใจ สร้างคุณลักษณะนิสัยให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีความช่างสังเกต มีเหตุผล
พัฒนาเจตคติและทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ เด็กควรได้รับการกระตุ้นส่งเสริมให้สนใจ
และกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีความสงสัย
เกิดคำถามในสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับธรรมชาติรอบตัว
มีความมุ่งมั่นและมีความสุขที่จะศึกษาค้นคว้า สืบเสาะแสวงหาความรู้เพื่อรวบรวมข้อมูล
อย่างมีเหตุผล สามารถสื่อสารคำถาม คำตอบ ข้อมูลและสิ่งที่ค้นพบจากการเรียนรู้ให้ผู้อื่นเข้าใจได้
จึงต้องจัดสาระการเรียนรู้และกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสสัมผัสและเรียนรู้
เด็กจะต้องมีพื้นฐาน องค์ความรู้ ทักษะการเรียนรู้ ทักษะการเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สังคมแห่งการเรียนรู้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
กิจกรรมการเรียนการสอนแบบโครงงานเป็นกิจกรรมที่ใช้เทคนิควิธีการหลายๆ
รูปแบบมาผสมผสานร่วมกันระหว่างกระบวนการกลุ่ม การใช้ทักษะการเขียน การพูด การคิด
การแก้ปัญหา และการลงมือปฏิบัติจริง ทั้งนี้ มุ่งหวังให้เด็ก เรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งจากความสนใจ
อยากรู้ อยากเรียนของเด็กเอง โดยใช้กระบวนการและวิธีการทางวิทยาศาสตร์
เด็กจะเป็นผู้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ เพื่อค้นหาคำตอบด้วยตนเอง เป็นการสอนที่มุ่งเน้นให้เด็กได้เรียนรู้จาประสบการณ์ตรงกับแหล่งความรู้เบื้องต้นโดยเด็กสามารถสรุปความรู้ได้ด้วยตนเอง
ซึ่งความรู้ที่เด็กได้มาไม่จำเป็นต้องตรงกับตำรา
แต่ผู้สอนจะต้องสนับสนุนให้เด็กศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม โดยจัดแหล่งการเรียนรู้ให้
แล้วปรับปรุงความรู้ที่ได้ให้สมบูรณ์ ลักษณะสำคัญของโครงงานคือ
เด็กได้เลือกเรื่องหรือประเด็นที่จะศึกษาด้วยตนเอง
ซึ่งอาจจะเป็นรายบุคคลหรือกลุ่มก็ได้ เป็นผู้เลือกวิธีการศึกษาและแหล่งความรู้
ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองทุกขั้นตอน มีการเชื่อมโยงหรือบูรณาการระหว่างความรู้ ทักษะ ประสบการณ์เดิมกับสิ่งใหม่
มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่น โดยเฉพาะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์นั้น
เป็นการนำความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์
โดยเน้นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ฝึกทักษะการสังเกต การตั้งสมมุติฐาน
การออกแบบ การทดลอง การกำหนดและควบคุมตัวแปร การนิยาม เชิงปฏิบัติการ การวิเคราะห์ข้อมูล
การอภิปรายและสรุปผลการทดลอง ตลอดจนการใช้เครื่องมือพื้นฐานเพื่อนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิต
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมอันพึงประสงค์
ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เป็นที่มาของการเรียนการสอนระดับปฐมวัย โดยนำกิจกรรมการเรียนการสอนแบบโครงงานวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์
เพื่อตอบสนองต่อจุดมุ่งหมายของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยให้มีระดับที่ดีขึ้นและยังสามารถพัฒนาทักษะกระบวนการคิดของเด็กปฐมวัยให้ดียิ่งขึ้นได้