ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูโดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพนัสนิคม
ผู้วิจัย นางธัญญ์นภัส วิรัตน์เกษม
ปีการศึกษา 2566
วันที่เผยแพร่ 14 สิงหาคม 2568
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องนี้มีความมุ่งหมาย 1. เพื่อศึกษาองค์ประกอบหลัก และองค์ประกอบย่อยของรูปแบบเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูโดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล
3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพนัสนิคม 2. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน
และสภาพที่พึงประสงค์การพัฒนาครูโดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ ทางวิชาชีพ
เพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3
วัดเกาะแก้วนครสวรรค์ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพนัสนิคม 3. เพื่อพัฒนารูปแบบเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูโดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้
ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์ สังกัดกองการศึกษา
เทศบาลเมืองพนัสนิคม 4. เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูโดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้
ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์ สังกัดกองการศึกษา
เทศบาลเมืองพนัสนิคม กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่
ครูโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพนัสนิคม จำนวน 18 คน เครื่องมือประกอบด้วย
แบบประเมิน, แบบสอบถาม
สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น (PNI Modified)
ผลการวิจัย พบว่า
1. องค์ประกอบรูปแบบเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูโดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ในการแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้
ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพนัสนิคม ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่
ปัจจัยนําเข้า กระบวนการ ผลผลิต ผลลัพธ์ และข้อมูลป้อนกลับ และ 15
องค์ประกอบย่อย ได้แก่ 1) บุคคล 2) งบประมาณ 3)
วัสดุอุปกรณ์ 4) การเตรียมการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้
5) การจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อการอ่านออกเขียนได้ 6)
การประเมินผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อการอ่านออกเขียนได้ 7) ครูมีความสามารถในการพัฒนาหลักสูตร 8)
ครูมีความสามารถในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ 9) ครูมีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ 10) ครูมีความสามารถในการใช้สื่อเทคโนโลยี
11) ครูมีความสามารถในการวัดผลประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้
12)
ผู้บริหารสถานศึกษาและครูมีความพึงพอใจต่อรูปแบบเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูโดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้
ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์ สังกัดกองการศึกษา
เทศบาลเมืองพนัสนิคม 13) นักเรียนมีความสามารถ ในการอ่านออกเขียนได้
14) การรายงานผล 15) การปรับปรุงแก้ไข พัฒนา มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
2.
สภาพปัจจุบันสภาพที่พึงประสงค์ในการพัฒนาสมรรถนะครูโดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการแก้
ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล
3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพนัสนิคม โดยภาพรวม มีการดำเนินการอยู่ในระดับปานกลาง
และสภาพที่พึงประสงค์โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด
3. รูปแบบเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูโดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้
ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์
สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองพนัสนิคม ที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 3 ระบบย่อย 1) การเตรียมการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
เพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ 2)
การจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้
และ 3) การประเมินผล การจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
เพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ ผลการประเมินมีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด
4. ผลการใช้รูปแบบเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูโดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการแก้ ปัญหาการอ่านออกเขียนได้
ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์ สังกัดกองการศึกษา
เทศบาลเมืองพนัสนิคม ดังนี้ ครูมีความสามารถในการจัดการเรียนรู้
ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และครูมีความพึงพอใจในการใช้รูปแบบเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูโดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้
ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์ สังกัดกองการศึกษา
เทศบาลเมืองพนัสนิคม อยู่ในระดับมากที่สุด