การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีสอนแบบ โฟนิกส์ร่วมกับการใช้แอพพลิเคชันสาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านป่าเลา เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านป่าเลาโดยใช้วิธีสอนแบบโฟนิกส์ร่วมกับการใช้แอพพลิเคชัน และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านป่าเลาที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีสอนแบบโฟนิกส์ร่วมกับการใช้แอพพลิเคชัน กลุ่มเป้าหมายได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านป่าเลา จานวน 12 คน ในปีการศึกษา 2565 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แอพพลิเคชัน English Is Fun สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านป่าเลา แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษก่อนและหลังเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านป่าเลา ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีสอนแบบโฟนิกส์ร่วมกับการใช้แอพพลิเคชัน ค่าสถิติที่ใช้สาหรับวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าดัชนีประสิทธิผล

                               ผลการวิจัยพบว่ากระบวนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีสอนแบบโฟนิกส์ร่วมกับการใช้แอพพลิเคชันสาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านป่าเลา ประกอบด้วยหลักการ 3 หลักการ ได้แก่ 1.กระบวนการจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งมีแอพพลิเคชันสอนการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเป็นสื่อการจัดการเรียนรู้หลักของกระบวนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย 4 ตอนคือ ตอนเนื้อเรื่อง ตอนคาศัพท์ ตอนเกม และตอนแบบทดสอบ 2. ผู้เรียนฝึกการอ่านออกเสียงโดยฟังตัวอย่างการออกเสียงที่ถูกต้องจากแอพพลิเคชันและฝึกออกเสียงตามด้วยตนเอง จนกระทั่งผู้เรียนสามารถอ่านออกเสียงคาศัพท์ วลี ประโยค ภาษาอังกฤษด้วยตนเองได้ และ3. ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงการอ่านออกเสียงไปสู่การอ่านเพื่อจับใจความสาคัญของเนื้อเรื่องได้ด้วยตนเอง ส่งผลให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษได้ทั้งการอ่านออกเสียงและการอ่านเพื่อจับใจความสาคัญ ค่าดัชนีประสิทธิผลความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีสอนแบบโฟนิกส์ร่วมกับการใช้แอพพลิเคชันของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านป่าเลา เท่ากับ 0.6161 และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านป่าเลา ที่เรียนด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีสอนแบบโฟนิกส์ร่วมกับการใช้แอพพลิเคชัน มีความพึงพอใจต่อกระบวนการจัดการเรียนรู้ในระดับมากที่สุด