Vichakan.net - เผยแพร่ผลงานวิชาการ

ชื่อเรื่อง การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้การบูรณาการ Technological Pedagogical Content Knowledge (TPACK) + Content and Language Integrated Learning (CLIL) + Project Based Learning (PBL) + Community Based Learning (CBL) ร่วมกับกระบวนการ 5E และนวัตกรรมตามกระบวนการคุณภาพ POLM เพื่อพัฒนานักเรียนให้เกิดการเรียนรู้ ในรายวิชาเพศวิถีศึกษา เรื่อง การล่วงละเมิดทางเพศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ผู้วิจัย ณิชารัศม์ จิระพิทักษ์ชัย

ปีการศึกษา 2567

วันที่เผยแพร่ 4 กันยายน 2567

บทคัดย่อ

1. ความสำคัญของของผลงานนวัตกรรม

          องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รายงานว่าในปี 2021 ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้หญิงทั่วโลกเคยประสบกับความรุนแรงจากคนใกล้ชิดหรือการถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยบุคคลที่ไม่ใช่คู่ชีวิต อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต นอกจากนี้ในระดับโลก ความรุนแรงที่เกิดจากคนใกล้ชิดเป็นรูปแบบความรุนแรงที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงอายุ 15-49 ปี ซึ่งพบว่าความรุนแรงจากคนใกล้ชิดเป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุด ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาและการให้ความรู้เรื่องเพศวิถีศึกษา เพื่อช่วยลดปัญหาความรุนแรงทางเพศและปกป้องผู้คนจากการตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ

กระบวนการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษามุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เกิดพฤติกรรมด้านความรู้ เจตคติ คุณธรรม ค่านิยม และการปฏิบัติเกี่ยวกับสุขภาพควบคู่กับการออกกำลังกาย การเล่นเกมและกีฬา โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่มีความหลากหลาย เหมาะสมกับระดับความสามารถ ความต้องการและความสนใจของผู้เรียน เน้นกิจกรรมที่พัฒนาความสามารถในการตัดสินใจ ตั้งแต่การวางแผน การปฏิบัติ การตรวจสอบ และการประเมินผล อีกทั้งยังมุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาโดยรวมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา ในด้านสุขภาพและการกีฬาได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, 2560 หน้า 164) รายวิชาเพศวิถีศึกษา เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสาระนี้ และเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน เนื่องจากเรื่อง “เพศ” เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข อย่างไรก็ตามเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศยังคงเป็นปัญหาของนักเรียน เนื่องจากการสังเกตพฤติกรรมจากการจัดการเรียนรู้วิชาเพศวิถีศึกษาในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ข้าพเจ้าพบว่านักเรียนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับสิทธิของตนเอง แต่ขาดความรู้ความเข้าใจ และการให้ความสำคัญเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ นักเรียนมักเข้าใจผิดว่าการล่วงละเมิดทางเพศจำกัดเพียงแค่การถูกเนื้อต้องตัวเท่านั้น ไม่คิด ก่อนทำพฤติกรรมต่างๆ กับผู้อื่น ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจและความปลอดภัยของผู้ที่ถูกล่วงละเมิดได้อย่างรุนแรง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเพศวิถีศึกษา เรื่อง การล่วงละเมิดทางเพศ อยู่ในระดับที่ควรพัฒนา

          จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน และหนึ่งในหลายปัจจัยนั้นได้แก่การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ซึ่งในหลากหลายวิธีสอนนั้นมีข้อดีและข้อเสีย ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับช่วงวัย ความรู้ ความสามารถของผู้เรียน ซึ่งในการจัดการเรียนการสอนวิชาเพศวิถีศึกษา ความรู้ และทักษะการตัดสินใจของผู้เรียน เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะสามารถทำให้ผู้เรียนนำไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการพัฒนาความรู้ และทักษะการตัดสินใจของผู้เรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้

          ข้าพเจ้าจึงได้แก้ปัญหาดังกล่าวโดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้การบูรณาการ Technological Pedagogical Content Knowledge (TPACK) + Content and Language Integrated Learning (CLIL) + Project Based Learning (PBL) + Community Based Learning (CBL) เป็นเทคนิคการสอนที่จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่หลากหลายและตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนในหลายๆ ด้าน ทำให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะทางด้านวิชาการ การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกับกระบวนการ 5E ที่เป็นรูปแบบการสอนที่สามารถทำให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง โดยใช้การตั้งคำถามให้ผู้เรียนได้ดึงประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้หรือฝึกฝน มาคิด และลงมือทำ จนเกิดเป็นการเรียนรู้จากความเข้าใจของตนเอง (อักษรเจริญทัศน์, 2565) และนวัตกรรมตามกระบวนการคุณภาพ POLM เป็นการบริหารจัดการศึกษาให้เกิดคุณภาพ นำมาใช้เพื่อให้การจัดการเรียนรู้มีโครงสร้างและเป็นระบบมากขึ้น ทำให้กระบวนการสอนมีคุณภาพสูงและสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน (เสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์, 2555) เพื่อพัฒนานักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้เกิดทักษะการเรียนรู้ เรื่อง การล่วงละเมิดทางเพศ

 

2. จุดประสงค์และเป้าหมายของผลงานนวัตกรรม

          2.1 วัตถุประสงค์

                   1) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ ทักษะการตัดสินใจ และทักษะการปฏิบัติตนในการป้องกันสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

                    2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเพศวิถีศึกษา เรื่อง การล่วงละเมิดทางเพศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

          2.2 เป้าหมาย

                    1) เชิงปริมาณ

                    - นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 20 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนหันห้วยทรายพิทยาคม อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา ได้เข้ารับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ เรื่อง การล่วงละเมิดทางเพศ ร้อยละ 100

                    2) เชิงคุณภาพ

                    - นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ทักษะการตัดสินใจ และทักษะการปฏิบัติตนในการป้องกันสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศ

                - นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเพศวิถีศึกษา เรื่อง การล่วงละเมิดทางเพศ ในระดับผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และคิดเป็นร้อยละ 70 ขึ้นไป ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด

ผลการศึกษาพบว่า
     จากการจัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้การบูรณาการ Technological Pedagogical Content Knowledge (TPACK) + Content and Language Integrated Learning (CLIL) + Project Based Learning (PBL) + Community Based Learning (CBL) ร่วมกับกระบวนการ 5E และนวัตกรรมตามกระบวนการคุณภาพ POLM เรื่อง การล่วงละเมิดทางเพศ นั้น ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นสนุกสนาน อยากที่จะเรียนรู้ และมีความสนใจในการทำกิจกรรมในห้องเรียนเป็นอย่างมาก จากการสังเกตการทำกิจกรรมกลุ่ม รู้จักการบูรณาการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษา (TPACK), มีการใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษกับเรื่องที่เรียนมากขึ้น (CLIL),  ในการทำงานกลุ่มผู้เรียนรู้จักการวางแผน มีการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามเหตุการณ์และประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ในทางสร้างสรรค์ (PBL) และสามารถประชาสัมพันธ์ความรู้จากประสบการณ์ในห้องเรียนไปสู่สังคมได้ (CBL) โดยการวัดและประเมินผลจากการสังเกต การสอบถามในชั้นเรียน การทดสอบ การประเมินผลจากใบกิจกรรมและกิจกรรมบทบาทสมมุติ และผลคะแนนสอบหลังเรียน เรื่อง การล่วงละเมิดทางเพศ
เมื่อเทียบเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม เป็นรายบุคคล พบว่า มีนักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 75 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด และมีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ 5 คน คิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด